Custom Search

Sep 7, 2008

จากดินสู่ฟ้า จากฟ้ากลับสู่ดิน

จากลูกชาวไทโส้ ในเขตอำเภอที่ยากจนที่สุดในจังหวัดสกลนคร บนพื้นดินที่เต็มไปด้วยดินลูกรัง ที่ทางราชการบอกว่าไม่ควรปลูกอะไรเลย ปล่อยให้เป็นป่าไว้เก็บเห็ดกิน ยังดีกว่า

-จากบัณฑิตการประมงของมหาวิทยาลัยแม่โจ้

ไปแสวงโชคเป็นลูกจ้างบริษัทใหญ่ที่ปักษ์ใต้ตามครรลอง

ของการศึกษาเพื่อสนองระบอบทุนนิยมตะวันตก

-จากผู้จัดการภาคกินเงินเดือนละ ๒ แสน

หนีกลับบ้านเกิดมาเป็นเกษตรกรบนพื้นดินลูกรังที่ไร้ค่าในสายตาใครๆ

-จากคนอมโรคทั้งโรคหัวใจ และความดันโลหิตสูงที่ยากจะรักษา

กลับมาเป็นชายวัยกลางคนที่แข็งแรงกว่าวัย



นายนฤทธิ์ คำธิศรี

เกิด 1 มกราคม 2506

ที่อยู่ 85 ม.9 ต.โพธิไพศาล อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร

คู่สมรส นางตุ้มคำ พยาบาลวิชาชีพ 7 หัวหน้าสถานีอนามัยโพธิไพศาล อำเภอกุสุมาลย์

บุตร 2 คน

การศึกษา ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงจากวิทยาลัยเกษตรสุรินทร์ และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ (สาขาประมง)



ประวัติการทำงานและผลงานที่น่ายกย่อง

นายนฤทธิ์ เป็นประชากรเขตตำบลโพธิไพศาลเป็นชนเผ่า ไทโส้

ซึ่งมีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง

เมื่อเรียนจบทำงานกับบริษัทเอกชนด้านการเกษตร

และเก็บออมเงินทุนไว้ประกอบอาชีพของตนเอง

ในที่สุดได้ลาออกจากบริษัทและกลับมาใช้ชีวิตเป็นเกษตรกรเต็มตัว

ที่แผ่นดินเกิดบนดินลูกรังพื้นที 31 ไร่ ซึ่งได้มาจากหยาดเหงื่อแรงงานของตนเองและคู่ชีวิต


นายนฤทธิ์ได้พยายามนำความรู้กลับมาพัฒนาบ้านเกิด

เพื่อปรับเปลี่ยนความเชื่อที่บอกกันตลอดมาว่า ดินลูกรังปลูกอะไรก็ไม่ได้

ต้นไม้ไม่โตจากสภาพพื้นดินที่เป็นดินลูกรังซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ

ขาดน้ำในฤดูแล้งการทำการเกษตรจึงต้องมีข้อมูลและมีความอดทนมากพอสมควร

ในปี2532 นายนฤทธิ์ได้เริ่มต้นศึกษาการปลูกพืชตามหลักวิชาการอย่างจริงจัง

โดยศึกษาปริมาณน้ำฝน พันธุ์พืช หลักการปรับปรุงบำรุงดิน

ศึกษาการทำการเกษตรแบบธรรมชาติและภูมิปัญญาท้องถิ่น

ศึกษาดูงานสวนเกษตรที่ประสบความสำเร็จทั่วประเทศ


ในปี 2535 ได้เริ่มทดลองปลูกพืช ชนิดละ 2-3 ต้น

เพื่อศึกษาการเจริญเติบโตและปัญหาของพืชชนิดนั้นๆ

ขณะเดียวกันได้ปลูกพืชเป็นแนวกันลมคือปลูกไม้สักรอบพื้นที่

จากการศึกษาและรวบรวมข้อมูลมาตลอด 5 ปี จนมีความมั่นใจ

ปี 2537 จึงเริ่มลงมือปลูกพืช โดยใช้หลักวิชาการผสมผสานกับภูมิปัญญาท้องถิ่น

บ่งพื้นที่การเกษตร เป็นพื้นที่ปลูกพืชและปศุสัตว์ 20 ไร่,

บ่อเลี้ยงปลา 9 ไร่, ป่าอนุรักษ์ 4 ไร่

ประเภทของพืชที่ปลูก แบ่งเป็น


1. ผักอายุสั้น : พริก แตงไทย ฟักทอง บวบ

2. พืชอายุสั้น : กล้วย มะละกอ ฝรั่ง

3. ผลไม้ : กระท้อน ขนุน มะม่วง มะขาม มะพร้าวน้ำหอม ลำไย มะกอกน้ำ

4. ไม้เศรษฐกิจ : สัก พยุง ชิงชัน ประดู่แดง มะค่าโมง

5. พืชทดลอง : ผักหวานป่า

6. ป่าอนุรักษ์


สัตว์ที่เลี้ยงได้แก่ วัวขุน วัวฝูง เป็ด ไก่ แพะ แกะ

บ่อเลี้ยงปลา จำนวน 3 บ่อ

นายนฤทธิ์ เป็นเกษตรกรที่สามารถจัดการกับปัญหาด้านเศรษฐกิจสังคม

และสิ่งแวดล้อมได้อย่างเหมาะสม คือ


ด้านเศรษฐกิจ จัดการให้ได้ผลตอบแทนจากผลิตผลทุกฤดูกาลหมุนเวียน

อย่างเพียงพอตลอดปี

ปัจจุบันนายนฤทธิ์ มีรายได้เฉลี่ยเดือนละ ๒๐๐,๐๐๐ บาท


ด้านสังคม แก้ไขการลักขโมย

ด้วยการพยายามพบปะผู้คนในชุมชนทำกิจกรรมร่วมกับชุมชน

เป็นผู้นำด้านต่างๆหลายด้าน

แบ่งปันผลผลิตให้กับวัด โรงเรียน

ศูนย์เด็กช่วยเหลือคนจนและผู้ติดเลิกยาเสพติดโดยการรับเข้าทำงานในฟาร์ม

จนในที่สุดปัญหาการลักขโมยได้หมดลง

ด้านสิ่งแวดล้อมเป็นเกษตรกรที่ตะหนักถึงปัญหาระบบนิเวศน์และเข้าใจดีว่า

ป่าและธรรมชาติจะต้องถูกทำลายมากขึ้นในอนาคต

ได้แบ่งพื้นที่เป็นป่าอนุรักษ์เพื่อให้สัตว์และแมลงได้อาศัย

พร้อมทั้งปลูกป่าเพิ่มเติม

นับว่า นายนฤทธิ์ เป็นผู้มีความอดทน ขยันและไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค

หมั่นศึกษาหาความรู้เพื่อพัฒนาอาชีพของตน

ขณะเดียวกันก็เอื้อเฟื้อต่อส่วนรวม

และเป็นแบบอย่างให้เยาวชน

เกษตรกรทั่วไปมาเรียนรู้แนวคิดปฏิบัติ จนได้รับคัดเลือก เป็น

-เกษตรกรผู้ประกอบอาชีพดีเด่น

สาขาไร่นาสวนผสมในปี ๒๕๔๘ จากสนง.เกษตรจังหวัดสกลนคร

-คนดีศรีเมืองสกลประจำปี๒๕๔๗ จากจังหวัดสกลนคร

-คนดีเมืองสกล เชิงประจักษ์ ประจำปี ๒๕๔๘ จากชมรมส่งเสริมคนดีเมืองสกล

จึงนับได้ว่า คุณนฤทธ์ คำธิศรี คือแบบอย่างความ "พอเพียง" อย่างแท้จริง

ที่มา:
http://www.yclsakhon.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&Category=yclsakhoncom&thispage=3&No=270837