เดี๋ยวดิดสรุปเอง
1. ซื่อสัตย์ต่อเป้าหมายของตัวเอง
และวัดผลผลลัพธ์ที่ได้ลงมือทำไปแล้วว่าเป็นยังไง
โดยไม่หลอกตัวเอง
“คุณหลอกคนอื่นได้ แต่หลอกตัวเองไม่ได้หรอก”
2. เน้นการลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ
ซอยเป้าหมายระยะยาวที่ตั้งไว้ออกมาเป็นส่วนเล็กๆ
แล้วค่อยๆ ทำทีล่ะน้อยๆ ฝึกให้ตัวเองสะสมนิสัยแห่ง
การลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ เก็บ small win บ่อยๆ
3. มี mindset ต่อตัวเองว่าเป้าหมายที่เราลงมือทำไม่มีคำว่า "สูญเสีย"
ให้คิดเสมอว่า...
“เราไม่ได้สูญเสีย แต่เรากำลังได้ประโยชน์”
ความสำเร็จคือการได้มาซึ่งสิ่งดีๆ ทั้งมวลในปริมาณที่มากมาย คุณมีแต่จะได้ประโยชน์จากความสำเร็จ แต่สำหรับความล้มเหลวนั้นเป็นเรื่องที่คุณมีแต่ความสูญเสียอยู่เสมอ ให้คิดแลบนี้ครับ
4. เลิกมีนิสัย “ขี้แหย”
คนขี้แหย พวกเขาชอบฟังแต่เรื่องลบๆ จากคนอื่นและโลกภายนอก คนเหล่านี้มักชอบแก้ตัวอยู่ตลอดในเวลาทำอะไรผิดพลาด
พวกเขามักหวั่นไหวต่ออิทธิพลในด้านลบของ
ผูอื่น และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราจึงแนะนำให้คุณระมัดระวังในการเลือกคนที่คุณจะเปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับเป้าหมายของคุณ
ดังนั้นจงปรึกษาให้ถูกที่ ถูกคน อย่าไปถามเรื่องความสำเร็จกับพวกที่มีนิสัยเหล่านี้ เพราะพวกเขามักจะบอกคุณว่า... “มันเป็นไปไม่ได้หรอก”
5. เริ่มต้นสักหนึ่งอย่างก่อน
ให้ลองตั้งเป้าหมายระยะสั้นก่อน ถ้าทำได้แล้วค่อยขยับไปในเป้าหมายที่ไกลกว่าเดิม ฝึกสำเร็จระยะสั้นก่อน เพราะความสำเร็จสั้นๆ จะชักนำให้เกิดความสำเร็จติดตามมาอีกเป็นระลอก
6. กล้าที่จะเจอกับสิ่งใหม่ๆ
คุณต้องกล้าที่จะเผชิญกับสิ่งใหม่ๆ เพราะในขณะที่คนเราตั้งเป้าหมายแล้วเจอกับอุปสรรคหรือความล้มเหลวแล้ว พวกเขามักชอบถอดใจ และเมื่อไหร่ที่คุณคลายล๊อคที่ปิดหัวใจของคุณออก โลกทั้งโลกก็จะเปิดโอกาสให้กับตัวคุณ ดังนั้นเมื่อเจอความล้มเหลวอย่าท้อครับ อย่าจมอยู่กับที่ ลุกขึ้นสู้ต่อไปครับ
7. ให้เชื่อว่าเราต้องสำเร็จตั้งแต่เริ่มทำตามเป้าหมาย
ถ้าเราอยากไปให้ถึงเป้าหมายในชีวิตหรือไปให้ถึงที่ๆอยากไปให้ถึง สิ่งสำคัญคือเราต้องทำตัวให้ตัวเรา
มองเห็นให้ได้ว่าเราไปถึงหรือประสบความสำเร็จได้
เราเชื่ออย่างไร เราก็จะได้อย่างนั้น เชื่อว่าล้มเหลว เราก็จะล้มเหลว เพราะใจเราแพ้ตั้งแต่แรกแล้ว
สู้เปลี่ยนมาเชื่อว่าเราสำเร็จได้ไม่ดีกว่าเหรอ ถึงแม้อาจจะทำได้ไม่ถึงเป้า แต่ผลที่ได้ก็ดีกว่าเดิมแน่นอน
8. ฝึกฝนแบบไร้ความกดดัน
ฝึกมองตัวเองให้ไปถึงเป้าหมายอยู่ทุกๆ วัน เมื่อ
คุณฝึกฝนอย่างไรก็ความกดดันอย่างเพียงพอ คุณจะสามารถทำงานได้ดียิ่งขึ้นในสภาวะสถานการณ์จริงที่อยู่ภายใต้ความกดดัน
ซึ่งสิ่งสำคัญในการฝึกแบบไร้ความกดดันคือ การมองเห็นตัวเองไปถึงเป้าหมายนั้นให้ได้จริงๆ ต้องเห็นภาพในใจเสียก่อน ก่อนที่คุณจะบรรลุเป้าหมายได้จริงๆ และคุณจะไม่เครียดในการทำเป้าหมาย เพราะคุณจะมี “ความมั่นใจสูง” แล้วว่าคุณทำได้
9. หาคนที่มีเป้าหมายแบบเดียวกัน
การที่จะเราจะประสบความสำเร็จได้เราจำเป็นต้องมีเพื่อนร่วมทางที่มีความคิด มีทัศนคติที่ดี เข้ามาอยู่รอบตัวเรา เพราะเพื่อนร่วมทางเหล่านี้แหละจะคอย
ช่วยประคับประคองฝ่าฟันเป้าหมายไปกับเรา
10. บอกตัวเองว่าต้องทำให้ได้
เมื่อเราบอกกับตัวเองว่าต้องทำให้ได้ ต้องสำเร็จให้ได้ ตัวเรานั้นจะไม่มีความกลัวต่ออุปสรรคที่เจอเลย
เพราะเราจะเชื่อแล้วว่าต้องทำให้ได้ หน้าที่เราคือต้องสำเร็จเท่านั้น ถ้าไม่สำเร็จจะไม่ยอมล้มเลิกในเป้าหมายเด็ดขาด