วันอาทิตย์ ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2561
"โรคในช่องปากที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนั้น มะเร็งช่องปากถือเป็น 1 ใน 10 อันดับของมะเร็งที่พบอัตราการเกิดในประชากรโลกมากกว่า 5 แสนรายต่อปี และเป็นสาเหตุให้เกิดการตายมากกว่า 250,000 คนต่อปี จากสถิติของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ สำหรับประเทศไทยในปี 2560 พบว่ามะเร็งริมฝีปากและช่องปากติดอันดับที่ 6 และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับที่ 4 ของผู้ป่วยมะเร็งเพศชาย หากเปรียบเทียบสัดส่วนประชากรเพศชายต่อเพศหญิงพบว่า สัดส่วนเพศชายต่อหญิงเท่ากับ 2:1 ในกลุ่มประชากรที่เป็นมะเร็งดังกล่าว พบอัตราส่วนมากกว่าร้อยละ 95 ในกลุ่มประชากรที่อายุมากกว่า 40 ปี โดยข่าวร้ายที่ควรทราบคือ มักพบผู้ป่วยที่เกิดมะเร็งในระยะที่ 4 หรือระยะท้าย ๆ ของโรคถึงร้อยละ 46.02 ส่งผลให้อัตราการรอดชีวิตในช่วง 5 ปีน้อยลงอย่างมาก คือหากพบในระยะแรก ๆ จะมีโอกาสรอดชีวิตสูงถึงร้อยละ 90 และหากพบในระยะท้าย ๆ จะเหลืออัตราเพียงร้อยละ 40 เท่านั้น ซึ่งตำราภาพ Atlas of Oral Diseases จึงถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมหาศาลต่อการค้นคว้าและการรักษาของทันตแพทย์ไทย" รศ.ดร.ทพ.สรสัณห์ กล่าวว่า
รศ.ดร.ทพ.สรสัณห์ รังสิยานนท์ หัวหน้าภาควิชาศัลยศาสตร์และเวชศาสตร์ช่องปาก คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ในฐานะประธานชมรมวิทยาการวินิจฉัยโรคช่องปากแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ชมรมฯ มีแนวคิดในการยกระดับการทำงานของทันตแพทย์ทั่วประเทศไทยให้เป็นแพทย์ช่องปาก ขยายขอบข่ายการทำงานจากการรักษาฟันไปสู่การรักษาโรคในช่องปาก เช่น มะเร็งในช่องปาก ที่ถือเป็นโรคที่พบมากทั่วโลก โดยพบว่าประเทศไทยมีผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก ในผู้ชายเป็นลำดับ 5 และพบในผู้หญิงเป็นลำดับ 6 ของผู้ป่วยมะเร็งทั้งหมด
ล่าสุด ได้จัดพิมพ์หนังสือตำราทันตแพทย์ เพื่อให้เป็นแหล่งอ้างอิงที่เป็นประโยชน์สำหรับทันตแททพย์ในประเทศไทย โดยสำนักพิมพ์ Springer Nature Publisher (สำนักพิมพ์สปริงเกอร์เนเจอร์) เจ้าของลิขสิทธิ์ตำราภาพ Atlas of Oral Diseases (ฉบับภาษาไทย) ได้มอบของขวัญให้ชาวไทยโดยมอบลิขสิทธ์ตำราภาพ Atlas of Oral Diseases ที่เขียนโดย Professor Isaac van der Waal (โปรเฟสเซอร์ไอแซค แวนเดอวาล) ให้แก่รองศาสตราจารย์ ดร.ทพ.สรสัณห์ รังสิยานนท์และ อาจารย์ ดร. ทพ.หญิงเปี่ยมกมล วัชโรทยางกูร นักวิชาการทันตแพทย์ไทย เพื่อแปลและจำหน่ายเป็นภาษาไทยในราคาที่ไม่แพง จึงเป็นของขวัญอันล้ำค่าต่อแวดวงการศึกษาของทันตแพทย์ไทยและต่อคนไทยทุกคน
เนื่องจากตำราภาพเล่มนี้ประกอบไปด้วยเนื้อหาขั้นสูงสำหรับทันตแพทย์ เพื่อให้มีความชำนาญด้านการวินิจฉัยโรคต่างๆ ในช่องปาก ด้านพยาธิวิทยาการก่อโรค การวินิจฉัยด้วยภาพรังสี และการรักษาด้วยเทคนิคต่าง ๆ ซึ่งตำราเกี่ยวกับการรักษาโรคในช่องปากนั้นปัจจุบันยังมีผู้เชี่ยวชาญเพียงไม่กี่ท่านที่ได้สะสมภาพและประสบการณ์การทำงานด้วยตนเองอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ตำราภาพเล่มนี้จึงจะช่วยให้การวินิจฉัยโรคในช่องปากได้มีประสิทธิภาพ และรวดเร็วมากขึ้น และลดความยากและซับซ้อนในการรักษามากขึ้น
รศ.ดร.ทพ.สรสัณห์ กล่าวอีกว่า ตำราภาพ Atlas of Oral Diseases โดย Professor Isaac van der Waal เป็นตำราที่มีความพิเศษอย่างยิ่ง มีภาพที่สวยงาม ชัดเจน แสดงประกอบคำอธิบายที่กระชับได้ใจความถึงโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคของเนื้อเยื่อหรือกระดูกของช่องปาก เป็นตำราที่เกิดจากการสั่งสมประสบการณ์อันยาวนานกว่า 40 ปีของผู้เขียน ทั้งด้านการให้บริการรักษาแก่ผู้ป่วยและงานวิจัย อีกทั้งประสบการณ์การเป็นศัลยแพทย์ผ่าตัดรอยโรคด้วยตนเองร่วมกับการใช้ยารักษาด้วย นับเป็นกรณีที่หาได้ยากในวงการทันตแพทย์ ภาพประกอบที่อยู่ในตำรา เป็นภาพของผู้ป่วยที่ผู้เขียนให้การวินิจฉัยและรักษาจริง จึงเป็นตำราที่มีความน่าเชื่อถือ ประเทศไทยนั้นถือว่ายังเป็นประเทศที่มีจำนวนทันตแพทย์น้อยเมื่อเทียบกับจำนวนประชากร
โดยขณะนี้มีคณะทันตแพทยศาสตร์ทั้งสิ้น 13 คณะ โดยคณะทันตแพทยศาสตร์จำนวน 11 คณะ ดำเนินงานภายใต้กระทรวงศึกษาธิการ และอีก 2 คณะเป็นของภาคเอกชน สามารถผลิตทันตแพทย์ประมาณ 700 คนต่อปี การศึกษาใช้เวลา 6 ปี นักศึกษาที่เข้าศึกษาในคณะทันตแพทยศาสตร์ของรัฐ เมื่อเรียนจบ จะต้องทำการชดใช้สัญญาทุนการศึกษา ด้วยการออกไปปฏิบัติหน้าที่ทันตแพทย์ในพื้นที่ต่างๆ ณ โรงพยาบาลต่างๆ ของรัฐ เป็นเวลา 3 ปี หรืออาจชดใช้ด้วยเงิน กรณีที่ทันตแพทย์ออกไปอยู่ตามโรงพยาบาลอำเภอเล็กๆ ในพื้นที่ห่างไกล อาจเป็นเพียงทันตแพทย์คนเดียวของพื้นที่อำเภอนั้น และมักจะได้พบเคสผู้ที่มีรอยโรคต่างๆ ในช่องปาก ที่วินิจฉัยได้ยาก และหากวินิจฉัยช้า เริ่มการรักษาได้ช้า อาจทำให้สูญเสียชีวิตได้ ตำราภาพที่มีรายละเอียดของโรคและภาพประกอบชัดเจนดังเช่น Atlas of Oral Diseases จะช่วยเป็นแหล่งข้อมูลเบื้องต้นให้กับทันตแพทย์ได้อย่างดี
"โรคในช่องปากที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนั้น มะเร็งช่องปากถือเป็น 1 ใน 10 อันดับของมะเร็งที่พบอัตราการเกิดในประชากรโลกมากกว่า 5 แสนรายต่อปี และเป็นสาเหตุให้เกิดการตายมากกว่า 250,000 คนต่อปี จากสถิติของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ สำหรับประเทศไทยในปี 2560 พบว่ามะเร็งริมฝีปากและช่องปากติดอันดับที่ 6 และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับที่ 4 ของผู้ป่วยมะเร็งเพศชาย หากเปรียบเทียบสัดส่วนประชากรเพศชายต่อเพศหญิงพบว่า สัดส่วนเพศชายต่อหญิงเท่ากับ 2:1 ในกลุ่มประชากรที่เป็นมะเร็งดังกล่าว พบอัตราส่วนมากกว่าร้อยละ 95 ในกลุ่มประชากรที่อายุมากกว่า 40 ปี โดยข่าวร้ายที่ควรทราบคือ มักพบผู้ป่วยที่เกิดมะเร็งในระยะที่ 4 หรือระยะท้าย ๆ ของโรคถึงร้อยละ 46.02 ส่งผลให้อัตราการรอดชีวิตในช่วง 5 ปีน้อยลงอย่างมาก คือหากพบในระยะแรก ๆ จะมีโอกาสรอดชีวิตสูงถึงร้อยละ 90 และหากพบในระยะท้าย ๆ จะเหลืออัตราเพียงร้อยละ 40 เท่านั้น ซึ่งตำราภาพ Atlas of Oral Diseases จึงถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมหาศาลต่อการค้นคว้าและการรักษาของทันตแพทย์ไทย" รศ.ดร.ทพ.สรสัณห์ กล่าว