

คุณนึกภาพออกมั้ย หากวันหนึ่งคุณตื่นขึ้นมาบนเตียงโรงพยาบาล
แล้วพบว่าครึ่งล่างของตัวเอง -- หายไป --
คุณจะรู้สึกอย่างไร คุณยังคิดว่าคุณยังมีกำลังจะมีชีวิตอยู่หรือไม่
ป้ายหมู่บ้านโอทอป.
สำหรับรายการครอบจักรวาลในปีใหม่ นี้จะมี
รายการปิดทองหลังพระ ซึ่งเป็น โครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พระราชทานแก่พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าให้
มีการทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวอย่างพอเพียง
และเป็นโครง การที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติโดยส่วนรวม
แต่โครงการทั้งหลายไม่ได้เผยแพร่ ให้คนทั่วไปได้รับรู้
เรียกว่าเป็นโครงการเปรียบเสมือนการปิดทองหลังพระโดยแท้กอกระจูด.
คุณสุชาดา ยุวบูรณ์ และคุณเยาวลักษณ์ แพ่งสภา เลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากกอกระจูด.
การนวดกระจูด.
เพื่อที่จะให้โครงการที่พระราชทานแก่
พสกนิกรชาวไทยได้เผยแพร่รู้กันทั่วเมืองไทย
จึงมีรายการที่เสมือนปิดทองหลังพระให้ผู้คนได้ล่วงรู้ว่า
มีโครงการอันใดบ้างที่เป็นประโยชน์ต่อพสกนิกรชาวไทยและประเทศชาติ
เพื่อจะได้รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระราชทานแก่ชาวไทยทุกหมู่เหล่า
ซึ่งรายการครอบจักรวาลจะได้เสนอออกอากาศทาง ทีวีช่อง 5 สนามเป้า
ทุกวันอาทิตย์เวลาประมาณแปดนาฬิกาเศษ
โครงการแรกนั้นเป็น โครงการสานกระจูด
ให้เป็นผลิตภัณฑ์ หลายอย่างจาก "จักสานบ้านกวี"
ที่ บ้านมาบเหลาชะโอน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง http://www.blogger.com/www.bannkawee.comผลิตภัณฑ์จากกระจูด.
บ้านมาบเหลาชะโอน มีบึงใหญ่เนื้อที่ 3,870 ไร่
มีกระจูดขึ้นอยู่เต็ม ใน สมัยรัชกาลที่ 1 ชาวบ้านท้องถิ่นนี้เป็นเชื้อชาติ "ชอง"
(หมู่ชนที่ความเจริญยังเข้าไม่ถึงเช่นเดียวกับ ขมุ ทางภาคเหนือ)
มีกิจกรรมสานเสื่อกระจูดเป็นส่วยส่งเข้าเมืองหลวง
ต่อมาชาวบ้านได้สานกระจูดเป็นถุงใส่น้ำตาลทรายแดง
ต่อมาทางโครงการปิดทองหลังพระได้มาฟื้นฟูบึง
สำนักใหญ่ให้เป็นที่ใช้ในการอุปโภค บริโภค
ตลอดจนปลูกต้นกระจูดเพื่อนำเอามาพัฒนา แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์หลายอย่างด้วยกัน
ทำให้ชาวบ้านที่สืบทอดการทอเสื่อกระจูด
มีรายได้สำหรับเลี้ยงครอบครัวให้อยู่ดีมีสุขทั่วหน้ากัน
การสานกระจูด.
วันนี้เป็นการนำเรื่องดีๆ มาฝากคนไทยให้ได้ชื่นใจกันต้อนรับปีใหม่ 2553.
ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์
ดำรงค์ วงษ์โชติปิ่นทอง วิทยากรด้านพลังแห่งการคิดบวก
พูดถึงเรื่องนี้ว่า ปัจจุบันคนพูดถึงเรื่องการคิดบวกมากขึ้น
แต่ส่วนใหญ่จะพูดกันได้แต่ทำไม่เป็น
เพราะชีวิตประจำวันของคนใน
สมัยนี้ไม่ค่อยมีเรื่องดีเข้ามาในหัว เช่น
เช้ามาก็ดูข่าวฆาตกรรม ข่าวเรื่องไม่ดีของผู้อื่น
พยายามหาแต่ข่าวร้ายมาใส่ตัวเองจนเกิดเป็นความเคยชิน
โดยลืมไปว่าเราควรบริโภคข่าวสารทีมีประโยชน์มากกว่า
เพื่อทำให้สมองได้รับรู้เรื่องดีๆ บ้าง
แต่การคิดบวกให้ได้ในทันทีก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
เพราะคนเราเกิดมามีจิตใต้สำนึกภายในที่ปลูกฝังมานาน
ต้องใช้เวลาพอสมควรในการที่จะทำให้หันมาคิดเรื่องที่ไม่คุ้นเคย
"ถ้าเราเริ่มคิดบวกเราก็จะสามารถ
มองทุกอย่างในชีวิตให้มีความสุขได้
แม้กระทั่งเรื่องที่เลวร้ายเช่น คนที่กำลังผ่าตัดก็จะมองได้ว่า
สิ่งที่กำลังผ่าออกไปเป็นสิ่งไม่ดี หรือถ้ามีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น
กับชีวิตก็สามารถคิดได้ว่าดีแล้วที่เป็นอย่างนั้น เป็นต้น
คนที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานส่วนใหญ่จะคิดบวกเสมอ
แม้ว่าจะมีปัญหาเศรษฐกิจก็คิดว่าไม่เลวร้ายขนาดที่เป็นข่าว
เราต้องฝึกทีละนิดแล้วจะรู้ว่าการคิดบวกทำให้ขีวิตดีขึ้น"วิทยากรด้านพลังแห่งการคิดบวก บอกถึงข้อดีของการคิดบวก
"มองโลกแง่ดี" ใช้ศักยภาพที่มีฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจ
ด้าน เดิมพัน อยู่วิทยา
สถาปนิกการเงินนักออกแบบและวางแผน การเงินแนวใหม่
บอกถึงเรื่องของการวางแผนทางการเงินว่า
เริ่มต้นเราต้องรู้เป้าหมายของชีวิตก่อนว่าจะทำอะไร
หลังจากนั้นก็เริ่มวางแผนในการที่
จะทำให้ชีวิตเดินไปตามที่ตั้งเป้าไว้อย่างมีความสุขให้ได้
โดยถ้าอยากวางแผนการเงินให้ได้ผลดี
ก็ต้องรู้จักเปลี่ยนทัศนคติของตัวเองเกี่ยวกับการใช้เงินก่อน
คนบางคนอาจกลัวที่ต้องเปลี่ยนแปลง
เพราะไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะสำเร็จไหม
แต่ที่จริงแล้วควรคิดไว้เสมอว่า
ความสำเร็จบางอย่างก็มักมาพร้อมการเปลี่ยนแปลง
เพราะฉะนั้นอย่ากลัว
ส่วนในภาวะที่ย่ำแย่ในปัจจุบันต้องอย่าท้อคิดเสมอว่าทุกวิกฤติสามารถฝ่าฟันไปได้ถ้าตั้งใจ
อีกทั้งเราไม่ได้เผชิญเรื่องราวเหล่านั้นคนเดียว
ยังมีคนที่โดนหนักกว่าอยู่อีกมากมาย
ปิดท้ายด้วย สิริลักษณ์ ตันศิริ วิทยากร
ด้านการค้นหาศักยภาพที่ซ่อนอยู่
บอกถึงความสำคัญและวิธีการค้นหาศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในตัวว่า
ถ้าเราไม่ใช้ศักยภาพที่มีอยู่ในตัวให้เต็มที่ก็เหมือนการที่มีของดี
แต่ไม่ได้ใช้ แต่ถ้าเราสามารถพัฒนาศักยภาพและนำมาใช้ได้อย่างเต็มที่
ความสำเร็จ ความร่ำรวย ทุกอย่างก็จะสามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
และอาจจะมากเกินกว่าที่เราคาดหมายไว้ด้วย
"คนเราจะต้องรู้หลักคิดก่อน
เพราะความคิดจะส่งผลไปถึงอารมณ์และความรู้สึก
บางคนชีวิตยากลำบากเลยท้อแท้ไม่มีกำลังใจที่จะทำอะไร
อยากให้ลองเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ว่า
เราสามารถทำอะไรก็ได้ถ้าอยากจะทำ
พยายามสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นในตัวเอง
อีกทั้งในทุกวันจะต้องมีความสุข
ก่อนถ้ามีความสุขก็จะทำสิ่งต่างๆ ได้ดีมากขึ้น
อย่าปล่อยให้สภาวะแวดล้อมมามีอิทธิพลกับชีวิต
เพราะทุกคนจะมีความสามารถบางอย่างที่ทำได้ดีกว่าคนอื่นอยู่
แต่ไม่เคยสำรวจและใช้ความสามารถนั้น
อย่างเต็มที่เพราะกลัวหรืออายที่จะทำ"
วิทยการด้านการค้นหาศักยภาพทิ้งท้าย