- http://teetwo.blogspot.com/2009/07/blog-post_1515.html
- https://teetwo.blogspot.com/2018/03/blog-post_24.html
- https://teetwo.blogspot.com/2013/02/blog-post_5.html
- https://teetwo.blogspot.com/2020/05/blog-post_24.html
- www.thaipbs.or.th/DoHiRuYouTube
เหนือสิ่งอื่นใด
- เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (ร.๙) เนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี 9 มิถุนายน 2559
- พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (ร.๙) ณ วันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๔๙
- The 60th Anniversary Celebrations of his Majesty King Bhumibol Adulyadej's Accession to the Throne
- 63 ปี "พระเจ้าอยู่หัว ร.๙" ผู้นำที่ไม่เหมือนใครในโลก นำพาประเทศ "อยู่ดีมีสุข"
- Supreme Artist
- เศรษฐกิจพอเพียง : Sufficiency Economy พ.ศ. ๒๕๖๓
- ทศพิธราชธรรม ๑
- ทศพิธราชธรรม ๒
- ๑๐๐ ปี สวรรคตกาลสมเด็จพระปิยมหาราช
- ร.๙ ทรงห่วงเหตุการณ์ประเทศเพื่อนบ้าน
- พระบรมราโชวาท ร.๙
- "พูดแล้วต้องทํา" พระบรมราโชวาท "ในหลวง ร.๙" ทรงเตือน-ครม.
- ร. ๙ ทรงพระราชทานแก่พลเอกสุจินดา คราประยูร และพลตรีจำลอง ศรีเมือง
- ร.๙ ทรงรับสั่งรมต.ถวายสัตย์ฯ
- ร.๙ ทรงมีพระบรมราโชวาทแก่ตุลาการทหาร
- พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 ทรงป้องกันน้ำท่วม ปีพุทธศักราช ๒๕๓๘
- “ในหลวง ร.๙” ทรงฝากองคมนตรีปลูกฝังคนไทยเอื้อเฟื้อ นึกถึงส่วนรวม
- “ในหลวง ร.๙” เสด็จฯ ทอดพระเนตรดนตรีที่ศิริราช
- "ในหลวง ร.๙" เสด็จเปิดประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์-สะพานภูมิพล 1,2
- ในหลวง ร. ๙ เสด็จฯทอดพระเนตรคอนเสิร์ตแจ๊ส
- ๕ ธันวาคม ๒๕๕๒
- น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ"ในหลวง ร.๙"กับ"ภูมิสารสนเทศ"
- ในหลวง ร.๙ ทรงพระราชทาน ส.ค.ส.2554 แก่พสกนิกรชาวไทย
- 'ในหลวง ร.๙' ทรงมีพระราชดำรัสให้คนไทย ทำหน้าที่ ไม่ประมาท มีสติ : ๕ ธันวาคม ๒๕๕๓
- วันฉัตรมงคล (ร.๙)
- ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙
- พระราชดำรัสสุดท้าย ในหลวง รัชกาลที่ 9
- ๑๒ สิงหา วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
- "สมเด็จย่า"
- เจ้านายเล็กๆ ยุวกษัตริย์
- อาลัยพระพี่นางฯ
- ในหลวงรัชกาลที่ ๙ โปรดให้นายโคฟี อันนัน เฝ้าถวายรางวัลฯ (๒๕ พ.ค.๔๙)
- "พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร" มีพระราชดำรัสเกี่ยวกับการวิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์
- พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล
- ศิลปาชีพ : ประจักษ์พยานของความรัก ผูกพัน และห่วงใย
- เพลงสรรเสริญพระบารมี
- ชีวิตที่หมุนไปไม่หยุดยั้ง...พระอารมณ์ขันของพระเทพฯ
- ถ้าเดินเรื่อยไปย่อมถึงปลายทาง นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์สมเด็จพระเทพรัตนฯ
- สมเด็จพระเทพฯ กับการส่งเสริมไอที เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
- สมเด็จพระเทพฯ สนพระทัยเมล็ดพันธุ์ช่วยหล่อเลี้ยงประชากร
- เครือข่ายกาญจนาภิเษก
- สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
- ทรงพระเจริญ
- ของขวัญจากก้อนดิน
- ต้นไม้ของพ่อ
- รูปที่มีทุกบ้าน
- นายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ
- ติโต
- ไม่มีวันไหนที่ไม่คิดถึงในหลวงรัชกาลที่ ๙
- พระราชนิพนธ์ พระมหาชนก ที่ทุกคนพึงอ่าน
- โครงการแก้มลิง
- ทำไมเรารัก "พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร"

Nov 25, 2019
อ.ฟูจิ ฟูจิซากิ (FUJISAKI FUJI)
12 ปัญหาจากคนในรั้วบ้านเดียวกัน พร้อมวิธีแก้สไตล์ น้าเน็ก และพี่อ้อย
1. หวงสมบัติ
2. ฝาชักโครก และหลอดยาสีฟัน
3. รูมเมตผลาญไฟ
4. เป็นเด็กสำหรับพ่อแม่เสมอ
5. ลูกสาวหวงห้อง
6. อยากซักผ้าห่มให้ลูก
7. ห้องเธอ ห้องฉัน ห้องเรา
8. คุณพ่อเผด็จการ
9. เปิดทีวีทิ้งไว้
10. ติดมือถือ
11. ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น
12. แม่ไม่ move on
๒๕ พฤศจิกายน วันพระมหาธีรราชเจ้า ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๒
- https://teetwo.blogspot.com/2018/11/blog-post_0.html
- http://teetwo.blogspot.com/2008/12/blog-post_25.html
- http://teetwo.blogspot.com/2009/11/100.html
- http://teetwo.blogspot.com/2011/07/blog-post_27.html
- http://teetwo.blogspot.com/2009/03/blog-post_30.html
- https://teetwo.blogspot.com/2020/11/25-25-2563.html
Nov 21, 2019
ภาพประวัติศาสตร์ โป๊ปฟรานซิสเสด็จ ทรงมีปฏิสันถารกับสมเด็จพระสังฆราช
วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส (Pope Francis) ทรงมีปฏิสันถารกับสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ พระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร
Nov 18, 2019
Building Future : When Art is Life
*Openhouse เนื่องในโอกาสครบรอบ 35 ปี A49 และ 49Group*
ตรงเส้นขอบฟ้า
ตรงเส้นขอบฟ้า / ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์
ผมกะว่าจะเขียนเรื่อง การท่องเที่ยวแบบยาจก – ภาคจบ โดยนำแพคเกจ "เที่ยวสนุก...ลดทั้งเกาะ" มาเป็นตัวตั้ง ก่อนวิเคราะห์ในรายละเอียด แต่บังเอิญมีเรื่องต้องยั้งไว้ เพราะเมื่อผมลองโทรไปจอง ปรากฏว่าเจ้า "ดอกจัน" ตัวจิ๋วที่อยู่หลังราคา มันไม่ค่อยจิ๋วสมขนาด เพราะดอกจันอันหมายถึง ราคานี้ไม่รวมภาษีอื่น ๆ ทำให้ต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกกว่าแปดร้อยบาท (แอร์เอเชีย ไป-กลับ) จึงขออนุญาตยั้งไว้รอทำใจอีกแป๊บ
แต่เรื่องราวในพฤหัสนี้ไม่น่าเบื่อแน่ เพราะผมเพิ่งได้รับหนังสือจาก "โฉ" ดร.ปาริชาต สถาปิตานนท์ เป็นเรื่องราวและภาพชีวิตของครอบครัวเธอ ทั้งก่อนและหลังเหตุการณ์สึนามิ
โฉเป็นรุ่นน้องของผมที่โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ อยู่รุ่นใกล้กันจนพอคุ้นหน้า ยังเคยได้รางวัลเปรียวอะวอร์ดพร้อมกันเมื่อสองปีก่อน สำหรับคุณผู้อ่าน คงต้องอธิบายเพิ่มอีกนิด ดร.ปาริชาตเป็นอาจารย์จุฬาฯ คุณพ่อเคยเป็นคุณครูของผมผู้หนึ่ง ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.ประสม สถาปิตานนท์ ท่านทำงานอยู่ที่คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ จนเกษียณอายุ คุณแม่เป็นนักวิทยาศาสตร์ ทำราชการจนเกษียณอายุเช่นกัน
โฉมีน้องสาวสองคน ล้วนเป็นรุ่นน้องที่สาธิตจุฬาฯ ฉันท์เป็นคนกลาง เธอเป็นเพื่อนของเพื่อนผมอีกหลายคน ฉมเป็นน้องเล็ก ผมไม่รู้จัก ยกเว้นทราบว่าเป็นรุ่นน้องสาธิตฯ
เหตุการณ์เริ่มต้นด้วยการเดินทางไปท่องอันดามันของครอบครัวสถาปิตานนท์ ก่อนเกิดคลื่นสึนามิ เกิดความสูญเสีย มีเพียงโฉเท่านั้นที่ติดภารกิจอื่นไม่ได้ไปด้วย
ขอหยุดกึกที่ตรงนี้ เพื่อให้คุณผู้อ่านลองคิดตาม หญิงสาวผู้หนึ่ง ยังไม่มีครอบครัวเป็นของตัวเอง แต่มีครอบครัวสุดรักอยู่แล้ว มีคุณพ่อคุณแม่และน้องสาวอีกสองคน ภายในเช้าเดียว เธอเหลือเพียงลำพัง
แน่นอนว่าเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ได้เกิดเฉพาะเธอ ยังเกิดกับอีกหลายต่อหลายคน หลายต่อหลายครอบครัว ความเศร้ามีเท่าเทียม แต่ในสภาพแวดล้อมของโฉ คล้ายคลึงกับผม เราอยู่ในตระกูลราชการ เป็นลูกคนโต ทำงานสายวิชาการ เรามีสังคมคล้ายกัน
ผมเศร้าเมื่อทราบถึงเรื่องร้ายที่เกิดขึ้นกับใครต่อใครหลายคน แต่รู้สึกอินกับเหตุการณ์ของโฉมากกว่า เพราะโฉก็คือตัวแทนของคนอย่างผม โฉเป็นคนใกล้ตัว
ผมอ่านเรื่องของโฉในหลายสื่อ ดูในบางรายการทีวี ยังได้พบโฉหลังจากเกิดเหตุการณ์ ผมได้แต่ยิ้มให้เธอ เพราะเธอเริ่มต้นด้วยรอยยิ้ม เป็นรอยยิ้มอย่างจริงใจ ยิ้มที่คนเห็นแล้วอบอุ่นใจ เป็นยิ้มที่ปลอบใจเรา โดยไม่ต้องรอให้เราปลอบใจเธอ
ในยามที่สังคมตะพึดตะพือตีโพยตีพาย โน่นนิดนี่หน่อย เรื่องที่ไม่เป็นเรื่องกลับเป็นเรื่อง อาจเป็นเพราะอิทธิพลของโลกยุคปัจจุบัน ผมอยากเห็นรอยยิ้มอย่างโฉเยอะ ๆ ยิ้มที่ทำให้ผมรู้สึกดี รู้สึกว่าในสังคมนี้ยังมีคนสู้ ยังมีคนที่ตกอยู่ในสภาวะที่เป็นไปแทบไม่ได้ที่จะยิ้ม...แต่เธอยิ้ม
เขียนเน้นย้ำซ้ำสอง เป็นยิ้มที่สร้างความอบอุ่น...เหลือเกิน
และแล้วเรื่องของเธอก็เป็นหนังสือ เป็นหนังสือเกี่ยวกับสึนามิอีกเล่ม ในยามที่แผงมีมากกว่าสิบเล่ม และผมอ่านแทบทุกเล่ม (ไม่ได้ซื้อทุกเล่ม บางเล่มแค่ยืนอ่าน...ก็จบ) ผมอ่าน "ตรงเส้นขอบฟ้า" เป็นเล่มสุดท้าย ก่อนตัดสินใจเขียนถึงเล่มนี้
ไม่ได้หมายความว่า เล่มนี้ดีกว่าเล่มอื่น ผมขออนุญาตไม่เปรียบเทียบ ไม่ได้หมายความว่า โฉเป็นคนที่ผมรู้จัก มิฉะนั้นผมคงต้องเขียนถึงหนังสืออีกหลายสิบเล่มในท้องตลาด เรื่องของโฉยังไม่น่าสะพรึงหรือลุ้นเร้าใจในทุกฉากทุกตอน ในทางตรงกันข้าม ผมรู้เรื่องของโฉแทบหมด เพราะเคยอ่านบทสัมภาษณ์เธอหลายหน
แต่สิ่งหนึ่งที่หนังสือเล่มนี้มี คือสิ่งที่ผมชอบ คือสิ่งที่ผมคิดว่าเป็นประโยชน์ คือเรื่องราวไม่ได้ปรุงแต่งให้เกินเหตุ คือสถานการณ์ในโลกแห่งความเป็นจริงที่เกิดขึ้นกับลูกผู้หญิงคนหนึ่ง ผมอ่านหนังสือด้วยความรู้สึกอยากรู้จักโฉ อยากทราบความรู้สึกอารมณ์ของเธอ มากกว่าอยากทราบเหตุการณ์ที่เกิดกับครอบครัวเธอ
ผมได้ในสิ่งที่ผมหวัง ด้วยความเป็นลูกนักวิทยาศาสตร์ของโฉ ดังที่เธอเล่าไว้ คุณพ่อคุณแม่สอนให้ลูก ๆ ทุกคนเป็นคนมีเหตุผล การลำดับขั้นตอน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การต่อสู้หาทางออก ทุกอย่างดำเนินอย่างตรงไปตรงมา ง่ายต่อการนึกภาพตาม ง่ายต่อการเข้าถึงอารมณ์ความรู้สึก
หนังสือมีภาพประกอบ เป็นภาพประกอบที่งดงาม แม้ไม่ได้ถ่ายด้วยช่างกล้องมืออาชีพ เป็นภาพที่พี่ถ่ายภาพน้อง ลูกถ่ายภาพพ่อ แต่จากภาพที่มีแทบทุกหน้า สอดคล้องสัมพันธ์กับเนื้อหา ทำให้ผมรู้ผ่านหนังสือว่า โฉรักครอบครัวของเธอเพียงใด พิถีพิถันกับหนังสือเล่มนี้ขนาดไหน
ภาพที่คุณแม่เก็บไว้ในกล่อง ถูกนำออกมาใช้อีกครั้ง ผมไม่ทราบว่าเธอรู้สึกเช่นใด ระหว่างเรียงร้อยวางภาพจัดหน้า แต่เชื่อเลยว่า ไม่ง่ายแน่ ไม่สนุกแน่ แต่เธอทำออกมาอย่างงดงาม ที่ผมสงสัยคือระหว่างเรียงภาพเหล่านั้นลงไปในเนื้อหา ใส่ความทรงจำลงไปข้างตัวอักษร เธอร้องไห้หรือเธอยิ้ม ?
หลังจากอ่านจบ ผมขอเดา...เธอยิ้ม อาจเป็นยิ้มทั้งน้ำตา แต่ "ยิ้ม" มาก่อน "น้ำตา" ภาพในหนังสือ 168 หน้า มีแต่รอยยิ้ม มีแต่ความรัก ไม่มีภาพความพินาศ พังทลาย หายนะ เหมือนหนังสืออีกหลายต่อหลายเล่ม ที่เน้นจุดขายในเรื่องความเศร้า
ในทางตรงกันข้าม ผมคิดว่าโฉคงไม่อยากทำหนังสือเล่มนี้ เรื่องที่ควรจะเศร้า ให้เป็นเรื่องเศร้า เธอคงอยากทำหนังสือรัก ความรักที่เหลืออยู่ ยามเมื่อผู้ที่เธอรักจากไป ผมเคยพบเรื่องรักเช่นนี้มาบ้าง เช่นภาพยนต์ Be with You ที่เคยเขียนถึง เรื่องรักที่เรียกน้ำตามากกว่าเรื่องเศร้า แต่นั่นคือนิยาย นี่คือความจริง
ความจริงไม่เรียกน้ำตาเท่านิยาย แต่ความจริงทิ้งบางอย่างไว้ บางอย่างหนักแน่นมั่นคง บางอย่างที่ไม่มีใครเสกสรรค์ประพันธ์ได้ บางอย่างที่หมายถึง "ความจริง"
อาจารย์ประสมคงภูมิใจ...ต้องภูมิใจ เพราะอย่างน้อยมีบางอย่างที่ท่านฝากให้เหลือไว้ มิใช่เพียงคุณประโยชน์นานาประการที่ท่านทำให้สังคมไทย แต่ท่านฝาก "ความจริง" ไว้กับลูกสาวคนหนึ่ง
ความจริงที่ยามเรารับรู้ หมายถึงกำลังใจให้เราพยายามทำต่อไป ในหนทางที่เราเชื่อ ในช่วงเวลาที่โลกรอบตัวทำให้เราลังเล โลกที่เงินมีค่าเหลือเกิน แต่เงินสร้างความจริงไม่ได้ เงินสร้างลูกอย่างโฉไม่ได้ มีเพียงความจริงเท่านั้นที่สร้างคนเยี่ยงนี้ได้
หนังสือเล่มนี้มอบ "ความจริง"
ข้อนี้ให้แก่ผม ในขณะที่ท้องตลาดมีหนังสือมากเหลือเกินสอนให้เราหา "เงิน" แต่มีน้อยแสนน้อยในวงการหนังสือบ้านเราที่หา "ความจริง" และ "ความรัก"
ในฐานะคนอ่าน ขอบคุณสำนักพิมพ์ "รักลูก" ที่ยังคงให้คำว่า "รัก" นำหน้าคำว่า "ค้า" ทำหนังสือออกมาตามเจตนาของเจ้าของ ขอบคุณ "โฉ" ที่ทำให้ผู้ชายคนหนึ่งได้เห็นผู้หญิงในอีกหนึ่งมุมมอง
"ตรงเส้นขอบฟ้า" ไม่ใช่หนังสือดีเลิศเลอค่าอมตะ ไม่ได้เร้าใจจนกระตุ้นให้ขนลุกซู่หรือต่อมน้ำตาทำงานไหลพราก อย่าตั้งความหวังกับลีลาการประพันธ์ให้มากเกินไป แต่ตั้งความหวังได้ หวังให้เต็มเปี่ยมเลยกับ "ความรัก" และ "ความจริง"
"ตรงเส้นขอบฟ้า" มีทั้งสองสิ่งครบถ้วน...เพียงพอ
หมายเหตุ – "ตรงเส้นขอบฟ้า" จัดจำหน่ายโดยสำนักพิมพ์ซีเอ็ด พิมพ์อีกสักสิบครั้ง โฉก็คงไม่รวยขึ้น เพราะรายได้จากค่าลิขสิทธิ์ทั้งหมด เธอมอบให้เพื่อการฟื้นฟูชุมชนบ้านบางกล้วยนอก กิ่งอำเภอสุขสำราญ จังหวัดระนองครับ
เพลง : ตรงเส้นขอบฟ้า ศิลปิน : พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ คอนเสิร์ต : สัญญาหน้าฝน 60 ปี เขียว คาราบาว
โดย: MGR Online
- https://mgronline.com/travel/detail/9480000097666
- http://teetwo.blogspot.com/2008/04/blog-post_25.html
- https://teetwo.blogspot.com/2011/03/tsunami.html
ผมกะว่าจะเขียนเรื่อง การท่องเที่ยวแบบยาจก – ภาคจบ โดยนำแพคเกจ "เที่ยวสนุก...ลดทั้งเกาะ" มาเป็นตัวตั้ง ก่อนวิเคราะห์ในรายละเอียด แต่บังเอิญมีเรื่องต้องยั้งไว้ เพราะเมื่อผมลองโทรไปจอง ปรากฏว่าเจ้า "ดอกจัน" ตัวจิ๋วที่อยู่หลังราคา มันไม่ค่อยจิ๋วสมขนาด เพราะดอกจันอันหมายถึง ราคานี้ไม่รวมภาษีอื่น ๆ ทำให้ต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกกว่าแปดร้อยบาท (แอร์เอเชีย ไป-กลับ) จึงขออนุญาตยั้งไว้รอทำใจอีกแป๊บ
แต่เรื่องราวในพฤหัสนี้ไม่น่าเบื่อแน่ เพราะผมเพิ่งได้รับหนังสือจาก "โฉ" ดร.ปาริชาต สถาปิตานนท์ เป็นเรื่องราวและภาพชีวิตของครอบครัวเธอ ทั้งก่อนและหลังเหตุการณ์สึนามิ
โฉเป็นรุ่นน้องของผมที่โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ อยู่รุ่นใกล้กันจนพอคุ้นหน้า ยังเคยได้รางวัลเปรียวอะวอร์ดพร้อมกันเมื่อสองปีก่อน สำหรับคุณผู้อ่าน คงต้องอธิบายเพิ่มอีกนิด ดร.ปาริชาตเป็นอาจารย์จุฬาฯ คุณพ่อเคยเป็นคุณครูของผมผู้หนึ่ง ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.ประสม สถาปิตานนท์ ท่านทำงานอยู่ที่คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ จนเกษียณอายุ คุณแม่เป็นนักวิทยาศาสตร์ ทำราชการจนเกษียณอายุเช่นกัน
โฉมีน้องสาวสองคน ล้วนเป็นรุ่นน้องที่สาธิตจุฬาฯ ฉันท์เป็นคนกลาง เธอเป็นเพื่อนของเพื่อนผมอีกหลายคน ฉมเป็นน้องเล็ก ผมไม่รู้จัก ยกเว้นทราบว่าเป็นรุ่นน้องสาธิตฯ
เหตุการณ์เริ่มต้นด้วยการเดินทางไปท่องอันดามันของครอบครัวสถาปิตานนท์ ก่อนเกิดคลื่นสึนามิ เกิดความสูญเสีย มีเพียงโฉเท่านั้นที่ติดภารกิจอื่นไม่ได้ไปด้วย
ขอหยุดกึกที่ตรงนี้ เพื่อให้คุณผู้อ่านลองคิดตาม หญิงสาวผู้หนึ่ง ยังไม่มีครอบครัวเป็นของตัวเอง แต่มีครอบครัวสุดรักอยู่แล้ว มีคุณพ่อคุณแม่และน้องสาวอีกสองคน ภายในเช้าเดียว เธอเหลือเพียงลำพัง
แน่นอนว่าเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ได้เกิดเฉพาะเธอ ยังเกิดกับอีกหลายต่อหลายคน หลายต่อหลายครอบครัว ความเศร้ามีเท่าเทียม แต่ในสภาพแวดล้อมของโฉ คล้ายคลึงกับผม เราอยู่ในตระกูลราชการ เป็นลูกคนโต ทำงานสายวิชาการ เรามีสังคมคล้ายกัน
ผมเศร้าเมื่อทราบถึงเรื่องร้ายที่เกิดขึ้นกับใครต่อใครหลายคน แต่รู้สึกอินกับเหตุการณ์ของโฉมากกว่า เพราะโฉก็คือตัวแทนของคนอย่างผม โฉเป็นคนใกล้ตัว
ผมอ่านเรื่องของโฉในหลายสื่อ ดูในบางรายการทีวี ยังได้พบโฉหลังจากเกิดเหตุการณ์ ผมได้แต่ยิ้มให้เธอ เพราะเธอเริ่มต้นด้วยรอยยิ้ม เป็นรอยยิ้มอย่างจริงใจ ยิ้มที่คนเห็นแล้วอบอุ่นใจ เป็นยิ้มที่ปลอบใจเรา โดยไม่ต้องรอให้เราปลอบใจเธอ
ในยามที่สังคมตะพึดตะพือตีโพยตีพาย โน่นนิดนี่หน่อย เรื่องที่ไม่เป็นเรื่องกลับเป็นเรื่อง อาจเป็นเพราะอิทธิพลของโลกยุคปัจจุบัน ผมอยากเห็นรอยยิ้มอย่างโฉเยอะ ๆ ยิ้มที่ทำให้ผมรู้สึกดี รู้สึกว่าในสังคมนี้ยังมีคนสู้ ยังมีคนที่ตกอยู่ในสภาวะที่เป็นไปแทบไม่ได้ที่จะยิ้ม...แต่เธอยิ้ม
เขียนเน้นย้ำซ้ำสอง เป็นยิ้มที่สร้างความอบอุ่น...เหลือเกิน
และแล้วเรื่องของเธอก็เป็นหนังสือ เป็นหนังสือเกี่ยวกับสึนามิอีกเล่ม ในยามที่แผงมีมากกว่าสิบเล่ม และผมอ่านแทบทุกเล่ม (ไม่ได้ซื้อทุกเล่ม บางเล่มแค่ยืนอ่าน...ก็จบ) ผมอ่าน "ตรงเส้นขอบฟ้า" เป็นเล่มสุดท้าย ก่อนตัดสินใจเขียนถึงเล่มนี้
ไม่ได้หมายความว่า เล่มนี้ดีกว่าเล่มอื่น ผมขออนุญาตไม่เปรียบเทียบ ไม่ได้หมายความว่า โฉเป็นคนที่ผมรู้จัก มิฉะนั้นผมคงต้องเขียนถึงหนังสืออีกหลายสิบเล่มในท้องตลาด เรื่องของโฉยังไม่น่าสะพรึงหรือลุ้นเร้าใจในทุกฉากทุกตอน ในทางตรงกันข้าม ผมรู้เรื่องของโฉแทบหมด เพราะเคยอ่านบทสัมภาษณ์เธอหลายหน
แต่สิ่งหนึ่งที่หนังสือเล่มนี้มี คือสิ่งที่ผมชอบ คือสิ่งที่ผมคิดว่าเป็นประโยชน์ คือเรื่องราวไม่ได้ปรุงแต่งให้เกินเหตุ คือสถานการณ์ในโลกแห่งความเป็นจริงที่เกิดขึ้นกับลูกผู้หญิงคนหนึ่ง ผมอ่านหนังสือด้วยความรู้สึกอยากรู้จักโฉ อยากทราบความรู้สึกอารมณ์ของเธอ มากกว่าอยากทราบเหตุการณ์ที่เกิดกับครอบครัวเธอ
ผมได้ในสิ่งที่ผมหวัง ด้วยความเป็นลูกนักวิทยาศาสตร์ของโฉ ดังที่เธอเล่าไว้ คุณพ่อคุณแม่สอนให้ลูก ๆ ทุกคนเป็นคนมีเหตุผล การลำดับขั้นตอน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การต่อสู้หาทางออก ทุกอย่างดำเนินอย่างตรงไปตรงมา ง่ายต่อการนึกภาพตาม ง่ายต่อการเข้าถึงอารมณ์ความรู้สึก
หนังสือมีภาพประกอบ เป็นภาพประกอบที่งดงาม แม้ไม่ได้ถ่ายด้วยช่างกล้องมืออาชีพ เป็นภาพที่พี่ถ่ายภาพน้อง ลูกถ่ายภาพพ่อ แต่จากภาพที่มีแทบทุกหน้า สอดคล้องสัมพันธ์กับเนื้อหา ทำให้ผมรู้ผ่านหนังสือว่า โฉรักครอบครัวของเธอเพียงใด พิถีพิถันกับหนังสือเล่มนี้ขนาดไหน
ภาพที่คุณแม่เก็บไว้ในกล่อง ถูกนำออกมาใช้อีกครั้ง ผมไม่ทราบว่าเธอรู้สึกเช่นใด ระหว่างเรียงร้อยวางภาพจัดหน้า แต่เชื่อเลยว่า ไม่ง่ายแน่ ไม่สนุกแน่ แต่เธอทำออกมาอย่างงดงาม ที่ผมสงสัยคือระหว่างเรียงภาพเหล่านั้นลงไปในเนื้อหา ใส่ความทรงจำลงไปข้างตัวอักษร เธอร้องไห้หรือเธอยิ้ม ?
หลังจากอ่านจบ ผมขอเดา...เธอยิ้ม อาจเป็นยิ้มทั้งน้ำตา แต่ "ยิ้ม" มาก่อน "น้ำตา" ภาพในหนังสือ 168 หน้า มีแต่รอยยิ้ม มีแต่ความรัก ไม่มีภาพความพินาศ พังทลาย หายนะ เหมือนหนังสืออีกหลายต่อหลายเล่ม ที่เน้นจุดขายในเรื่องความเศร้า
ในทางตรงกันข้าม ผมคิดว่าโฉคงไม่อยากทำหนังสือเล่มนี้ เรื่องที่ควรจะเศร้า ให้เป็นเรื่องเศร้า เธอคงอยากทำหนังสือรัก ความรักที่เหลืออยู่ ยามเมื่อผู้ที่เธอรักจากไป ผมเคยพบเรื่องรักเช่นนี้มาบ้าง เช่นภาพยนต์ Be with You ที่เคยเขียนถึง เรื่องรักที่เรียกน้ำตามากกว่าเรื่องเศร้า แต่นั่นคือนิยาย นี่คือความจริง
ความจริงไม่เรียกน้ำตาเท่านิยาย แต่ความจริงทิ้งบางอย่างไว้ บางอย่างหนักแน่นมั่นคง บางอย่างที่ไม่มีใครเสกสรรค์ประพันธ์ได้ บางอย่างที่หมายถึง "ความจริง"
อาจารย์ประสมคงภูมิใจ...ต้องภูมิใจ เพราะอย่างน้อยมีบางอย่างที่ท่านฝากให้เหลือไว้ มิใช่เพียงคุณประโยชน์นานาประการที่ท่านทำให้สังคมไทย แต่ท่านฝาก "ความจริง" ไว้กับลูกสาวคนหนึ่ง
ความจริงที่ยามเรารับรู้ หมายถึงกำลังใจให้เราพยายามทำต่อไป ในหนทางที่เราเชื่อ ในช่วงเวลาที่โลกรอบตัวทำให้เราลังเล โลกที่เงินมีค่าเหลือเกิน แต่เงินสร้างความจริงไม่ได้ เงินสร้างลูกอย่างโฉไม่ได้ มีเพียงความจริงเท่านั้นที่สร้างคนเยี่ยงนี้ได้
หนังสือเล่มนี้มอบ "ความจริง"
ข้อนี้ให้แก่ผม ในขณะที่ท้องตลาดมีหนังสือมากเหลือเกินสอนให้เราหา "เงิน" แต่มีน้อยแสนน้อยในวงการหนังสือบ้านเราที่หา "ความจริง" และ "ความรัก"
ในฐานะคนอ่าน ขอบคุณสำนักพิมพ์ "รักลูก" ที่ยังคงให้คำว่า "รัก" นำหน้าคำว่า "ค้า" ทำหนังสือออกมาตามเจตนาของเจ้าของ ขอบคุณ "โฉ" ที่ทำให้ผู้ชายคนหนึ่งได้เห็นผู้หญิงในอีกหนึ่งมุมมอง
"ตรงเส้นขอบฟ้า" ไม่ใช่หนังสือดีเลิศเลอค่าอมตะ ไม่ได้เร้าใจจนกระตุ้นให้ขนลุกซู่หรือต่อมน้ำตาทำงานไหลพราก อย่าตั้งความหวังกับลีลาการประพันธ์ให้มากเกินไป แต่ตั้งความหวังได้ หวังให้เต็มเปี่ยมเลยกับ "ความรัก" และ "ความจริง"
"ตรงเส้นขอบฟ้า" มีทั้งสองสิ่งครบถ้วน...เพียงพอ
หมายเหตุ – "ตรงเส้นขอบฟ้า" จัดจำหน่ายโดยสำนักพิมพ์ซีเอ็ด พิมพ์อีกสักสิบครั้ง โฉก็คงไม่รวยขึ้น เพราะรายได้จากค่าลิขสิทธิ์ทั้งหมด เธอมอบให้เพื่อการฟื้นฟูชุมชนบ้านบางกล้วยนอก กิ่งอำเภอสุขสำราญ จังหวัดระนองครับ
เพลง : ตรงเส้นขอบฟ้า ศิลปิน : พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ คอนเสิร์ต : สัญญาหน้าฝน 60 ปี เขียว คาราบาว
Nov 17, 2019
คนสู้ชีวิต ! จากนักบินสู่พ่อค้าก๋วยเตี๋ยว ไม่อายทำกิน แถมใจดี..แจกฟรีคนตกงาน
เผยเรื่องราวกัปตันสายการบิน ชีวิตพลิกผัน ตกงานแต่ไม่ยอมแพ้ ผันตัวขายก๋วยเตี๋ยวเรือ สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว ไม่อายทำกิน แถมใจดีให้คนตกงานกินฟรีอีกด้วย
ที่มา https://hilight.kapook.com/view/196072
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ก๋วยเตี๋ยวเรือกัปตัน
กลายเป็นเรื่องราวดี ๆ ที่แชร์ในโลกออนไลน์ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2562 หลังจากเพจเฟซบุ๊ก ครุฑดำ โพสต์เรื่องราวพ่อค้าก๋วยเตี๋ยว คนสู้ชีวิตที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา จากกัปตันสายการบิน ที่จู่ ๆ เกิดวิกฤตฟ้าผ่าจากงานที่ทำ ยอมทิ้งหัวโขนมาสวมผ้ากันเปื้อนเป็นพ่อค้าลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว ตั้งชื่อร้านว่า "ก๋วยเตี๋ยวเรือกัปตัน"
สำหรับร้านก๋วยเตี๋ยวเรือนี้เปิดมานานแล้ว ภายใต้ชื่อก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าสมุทร แต่ต้องหยุดไปเกือบเดือน เนื่องจากติดปัญหาเรื่องแรงงาน ช่วงนี้ตนว่าง เลยลองมาทำ แต่รับประกันความอร่อยเหมือนเดิม เพราะสูตรเดียวกัน พิกัดร้านตั้งอยู่ในหมู่บ้านกฤษดานคร แจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด 30 ปล. ใครที่กำลังตกงานอยู่ มาทานฟรีที่ร้านได้เลย
โดยเจ้าของเรื่องได้ถ่ายทอดเรื่องราวนี้ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ก๋วยเตี๋ยวเรือกัปตัน ระบุว่า ตนทำงานเป็นกัปตันสายการบินแห่งหนึ่ง แต่จู่ ๆ บริษัทเกิดประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง ทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินเดือนได้ตามปกติ และกินเวลานานหลายเดือน ตนจึงมองหาอาชีพเสริม ทำอะไรก็ได้ที่ให้รายได้และมีงานทำ
สำหรับร้านก๋วยเตี๋ยวเรือนี้เปิดมานานแล้ว ภายใต้ชื่อก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าสมุทร แต่ต้องหยุดไปเกือบเดือน เนื่องจากติดปัญหาเรื่องแรงงาน ช่วงนี้ตนว่าง เลยลองมาทำ แต่รับประกันความอร่อยเหมือนเดิม เพราะสูตรเดียวกัน พิกัดร้านตั้งอยู่ในหมู่บ้านกฤษดานคร แจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด 30 ปล. ใครที่กำลังตกงานอยู่ มาทานฟรีที่ร้านได้เลย
ทั้งนี้ หลังจากเรื่องราวถูกแชร์ออกไป ล่าสุด ทางเพจได้โพสต์ภาพมีประชาชน เพื่อน ๆ พี่น้อง ร่วมสายงานด้านการบิน แวะเวียนมาอุดหนุนกันจำนวนมาก ทำยอดขายเยอะสุดตั้งแต่เปิดร้านมาเลย พร้อมขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่มาอุดหนุน ซาบซึ้งใจมากจริง ๆ
ที่มา https://hilight.kapook.com/view/196072
- http://teetwo.blogspot.com/2019/07/blog-post_33.html
- http://teetwo.blogspot.com/2019/08/blog-post_10.html
- http://teetwo.blogspot.com/2019/07/blog-post_17.html
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ก๋วยเตี๋ยวเรือกัปตัน
กลายเป็นเรื่องราวดี ๆ ที่แชร์ในโลกออนไลน์ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2562 หลังจากเพจเฟซบุ๊ก ครุฑดำ โพสต์เรื่องราวพ่อค้าก๋วยเตี๋ยว คนสู้ชีวิตที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา จากกัปตันสายการบิน ที่จู่ ๆ เกิดวิกฤตฟ้าผ่าจากงานที่ทำ ยอมทิ้งหัวโขนมาสวมผ้ากันเปื้อนเป็นพ่อค้าลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว ตั้งชื่อร้านว่า "ก๋วยเตี๋ยวเรือกัปตัน"
สำหรับร้านก๋วยเตี๋ยวเรือนี้เปิดมานานแล้ว ภายใต้ชื่อก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าสมุทร แต่ต้องหยุดไปเกือบเดือน เนื่องจากติดปัญหาเรื่องแรงงาน ช่วงนี้ตนว่าง เลยลองมาทำ แต่รับประกันความอร่อยเหมือนเดิม เพราะสูตรเดียวกัน พิกัดร้านตั้งอยู่ในหมู่บ้านกฤษดานคร แจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด 30 ปล. ใครที่กำลังตกงานอยู่ มาทานฟรีที่ร้านได้เลย
โดยเจ้าของเรื่องได้ถ่ายทอดเรื่องราวนี้ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ก๋วยเตี๋ยวเรือกัปตัน ระบุว่า ตนทำงานเป็นกัปตันสายการบินแห่งหนึ่ง แต่จู่ ๆ บริษัทเกิดประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง ทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินเดือนได้ตามปกติ และกินเวลานานหลายเดือน ตนจึงมองหาอาชีพเสริม ทำอะไรก็ได้ที่ให้รายได้และมีงานทำ
สำหรับร้านก๋วยเตี๋ยวเรือนี้เปิดมานานแล้ว ภายใต้ชื่อก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าสมุทร แต่ต้องหยุดไปเกือบเดือน เนื่องจากติดปัญหาเรื่องแรงงาน ช่วงนี้ตนว่าง เลยลองมาทำ แต่รับประกันความอร่อยเหมือนเดิม เพราะสูตรเดียวกัน พิกัดร้านตั้งอยู่ในหมู่บ้านกฤษดานคร แจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด 30 ปล. ใครที่กำลังตกงานอยู่ มาทานฟรีที่ร้านได้เลย
ทั้งนี้ หลังจากเรื่องราวถูกแชร์ออกไป ล่าสุด ทางเพจได้โพสต์ภาพมีประชาชน เพื่อน ๆ พี่น้อง ร่วมสายงานด้านการบิน แวะเวียนมาอุดหนุนกันจำนวนมาก ทำยอดขายเยอะสุดตั้งแต่เปิดร้านมาเลย พร้อมขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่มาอุดหนุน ซาบซึ้งใจมากจริง ๆ
กัปตันนาวาตรี “ราชิต สันป่าแก้ว” ผันตัวมาเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ในช่วงที่ บ.ให้หยุดงานชั่วคราว
โดยประกอบอาชีพเสริมคือเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว และขายเสื้อผ้า พร้อมให้ผู้ที่ตกงานมารับประทานก๋วยเตี๋ยวฟรี
Nov 13, 2019
#พนักงานโรมแรมไทยดวงเฮงถูกล๊อตโต้กรีนการ์ดกลายเป็นพลเมืองของอเมริกาในชั่วข้ามคืน
หลายคนคงจะเคยสงสัยทำไมคนไทยไปอยู่อเมริกา หรือเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับล๊อตโต้กรีนการ์ดหรือล๊อตเตอรี่ใบเขียวที่ทำให้คนไทยบางคนและอีกหลายๆประเทศกลายเป็นพลเมืองของอเมริกาอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วย้ายถิ่นพำนักมาตั้งรกรากในประเทศอเมริกากันมากมายกันบ้างแล้ว วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับคนไทยหนึ่งในผู้โชคดีจนตอนนี้เค้าเป็นประชาชนของประเทศสหรัฐอเมริกาไปแล้วว่าเค้าเป็นใครแล้วทำไมถึงตัดสินใจสมัครโครงการนี้ แล้วมีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง
📍“สไปค์ ปัญญาวุธ ฟาซซาลารี” หนุ่มพนักงานโรงแรมที่เก็บหอมรอมริบเก็บเงินแล้วตัดสินใจบินมาเรียนภาษาเพิ่มเติม แต่เค้ากลับหลงรักประเทศเสรีแห่งนี้เค้าจึงลองเสี่ยงดวงโดยการสมัครล๊อตโต้กรีนการ์ดของอเมริกา และที่มหัศจรรย์และเกินคาดไปกว่านั้นเค้ากลายเป็นหนึ่งในผู้โชคดีในครั้งนั้น สไปค์ ผลันตัวเองจากพนักงานโรงแรมไทยกลายเป็นหนุ่มอเมริกันเต็มตัว เพราะโชคชะตาฟ้าลิขิตไม่เคยมีใครคาดเดาได้ ที่ทำให้คนไทยคนนี้กลายเป็นคนอเมริกันเพียงชั่วข้ามคืน ชีวิตคนเรามันไม่เคยคาดเดาได้เลย ใครจะไปคิดว่าอยู่ๆคุณก็ต้องย้ายตัวเองไปอยู่อีกทวีปๆหนึ่งที่มีอะไรหลายๆอย่างที่ต่างจากบ้านเรา ล๊อตโต้กรีนการ์ดมันคืออะไร แล้ว สไปค์เป็นใครทำไมถึงตัดสินใจเลือกเส้นทางนี้
ปล.มีมากมายหลายคนนะคะที่ได้ล็อตโต้แบบนี้แต่คือเราอยากนำเสนอจากคนใกล้ตัวเราเพื่อข้อมูลที่แท้ถูกต้องและแม่นยำ💋
เรื่องโดย : #สวยสดใส🌸
Nov 10, 2019
#เชียร์แขก
- http://teetwo.blogspot.com/2009/07/blog-post_1515.html
- http://teetwo.blogspot.com/2019/07/blog-post_14.html
- http://teetwo.blogspot.com/2016/06/blog-post_8.html
- https://teetwo.blogspot.com/2019/07/blog-post_67.html
- https://teetwo.blogspot.com/2019/07/blog-post_29.html
- https://teetwo.blogspot.com/2019/08/in-past-ep4-12-61.html
- http://teetwo.blogspot.com/2019/08/httpsth-th.html
- https://teetwo.blogspot.com/2019/08/2.html
- http://teetwo.blogspot.com/2017/06/blog-post_75.html
- http://teetwo.blogspot.com/2017/06/blog-post_3.html
- http://teetwo.blogspot.com/2017/06/blog-post_97.html
Making of We Are The World
"We Are the World" is sung from a first person viewpoint, allowing the audience to "internalize" the message by singing the word we together.[22] It has been described as "an appeal to human compassion".[23] The first lines in the song's repetitive chorus proclaim, "We are the world, we are the children, we are the ones who make a brighter day, so let's start giving".[23] "We Are the World" opens with Lionel Richie, Stevie Wonder, Paul Simon, Kenny Rogers, James Ingram, Tina Turner, and Billy Joel singing the first verse.[24] Michael Jackson and Diana Ross follow, completing the first chorus together.[24] Dionne Warwick, Willie Nelson, and Al Jarreau sing the second verse, before Bruce Springsteen, Kenny Loggins, Steve Perry, and Daryl Hall go through the second chorus.[24] Co-writer Jackson, Huey Lewis, Cyndi Lauper, and Kim Carnes follow with the song's bridge.[24] This structuring of the song is said to "create a sense of continuous surprise and emotional buildup".[3] "We Are the World" concludes with Bob Dylan and Ray Charles singing a full chorus, Wonder and Springsteen duetting, and ad libs from Charles and Ingram.[24]
- https://en.wikipedia.org/wiki/We_Are_the_World
- https://teetwo.blogspot.com/2019/11/usa-for-africa-we-are-world.html
- https://teetwo.blogspot.com/2017/06/favorite-songs-1.html
- http://teetwo.blogspot.com/2009/07/blog-post_21.html
- http://teetwo.blogspot.com/2017/04/blog-post_28.html
Nov 3, 2019
USA FOR AFRICA - We Are The World
Songwriters: Michael Jackson / Lionel Richie
Released: 1985
There comes a time
When we heed a certain call
When the world must come together as one
There are people dying
Oh, and it's time to lend a hand to life
The greatest gift of all
We can't go on
Pretending day-by-day
That someone, somewhere soon make a change
We're all a part of God's great big family
And the truth, you know, love is all we need
We are the world
We are the children
We are the ones who make a brighter day, so let's start giving
There's a choice we're making
We're saving our own lives
It's true we'll make a better day, just you and me
Oh, send them your heart
So they know that someone cares
And their lives will be stronger and free
As God has shown us by turning stones to bread
And so we all must lend a helping hand
We are the world
We are the children
We are the ones who make a brighter day, so let's start giving
Oh, there's a choice we're making
We're saving our own lives
It's true we'll make a better day, just you and me
When you're down and out, there seems no hope at all
But if you just believe there's no way we can fall
Well, well, well, well let us realize
Oh, that a change can only come
When we stand together as one, yeah, yeah, yeah
We are the world
We are the children
We are the ones who make a brighter day, so let's start giving
There's a choice we're making
We're saving our own lives
It's true we'll make a better day, just you and me
We are the world
We are the children
We are the ones who make a brighter day, so let's start giving
There's a choice we're making
We're saving our own lives
It's true we'll make a better day, just you and me
We are the world (are the world)
We are the children (are the children)
We are the ones who'll make a brighter day, so let's start giving (so let's start giving)
There is a choice we're making
We're saving our own lives
It's true we'll make a better day, just you and me
Oh, let me hear you!
We are the world (we are the world)
We are the children (said we are the children)
We are the ones who'll make a brighter day so let start giving (so let's start giving)
There's a choice we're making
We're saving our own lives
It's true we'll make a better day, just you and me, come on now, let me hear you
We are the world (we are the world)
We are the children (we are the children)
We are the ones who'll make a brighter day so let's start giving (so let's start giving)
There's a choice we're making
We're saving our own lives
It's true we'll make a better day, just you and me, yeah
We are the world (we are the world)
We are the children (we are the children)
We are the ones who'll make a brighter day so let's start giving (so let's start giving)
There's a choice we're making
And we're saving our own lives
It's true we'll make a better day, just you and me
We are the world (are the world)
We are the children (are the children)
We are the ones who'll make a brighter day so let's start giving (so let's start giving)
There's a choice we're making
We're saving our own lives
It's true we'll make a better day, just you and me
We are the world, we are the world (are the world)
We are the children, yes sir (are the children)
We are the ones that make a brighter day so let's start giving (so let's start giving)
There's a choice we're making
We're saving our own lives
It's true we'll make a better day, just you and me, ooh-hoo!
We are the world (dear God) (are the world)
We are the children (are the children)
We are the ones that make a brighter day so let's start giving (all right, can you hear what I'm saying?)
There's a choice we're making, we're saving our own lives
Source: LyricFind
"We Are the World" is sung from a first person viewpoint, allowing the audience to "internalize" the message by singing the word we together.[22] It has been described as "an appeal to human compassion".[23] The first lines in the song's repetitive chorus proclaim, "We are the world, we are the children, we are the ones who make a brighter day, so let's start giving".[23] "We Are the World" opens with Lionel Richie, Stevie Wonder, Paul Simon, Kenny Rogers, James Ingram, Tina Turner, and Billy Joel singing the first verse.[24] Michael Jackson and Diana Ross follow, completing the first chorus together.[24] Dionne Warwick, Willie Nelson, and Al Jarreau sing the second verse, before Bruce Springsteen, Kenny Loggins, Steve Perry, and Daryl Hall go through the second chorus.[24] Co-writer Jackson, Huey Lewis, Cyndi Lauper, and Kim Carnes follow with the song's bridge.[24] This structuring of the song is said to "create a sense of continuous surprise and emotional buildup".[3] "We Are the World" concludes with Bob Dylan and Ray Charles singing a full chorus, Wonder and Springsteen duetting, and ad libs from Charles and Ingram.[24]
We Are the World lyrics © Sony/ATV Music Publishing LLC, Warner Chappell Music, Inc, Royalty Network
Leona Lewis
Bleeding Love (Official Video)
Bleeding Love (US Version)
Lionel Richie Medley
- http://teetwo.blogspot.com/2014/03/blog-post.html
- http://teetwo.blogspot.com/2017/04/blog-post_28.html
Nov 2, 2019
10 อันดับละครจักรๆ วงศ์ๆ ที่ออกอากาศนานและมีจำนวนตอนสูงสุด!
21.03.2019
ละครจักรๆ วงศ์ๆ ถือได้ว่าเป็นอยู่คู่กับคนไทยมายาวนานกว่า 51 ปี นับตั้งแต่ละคร ปลาบู่ทอง ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2511 ทางช่อง 7 อำนวยการสร้างโดย ไพรัช สังวริบุตร จากค่ายดาราฟิล์ม ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัทดาราวิดีโอ บริษัทสามเศียร และบริษัทดีด้า
โดยจุดเด่นของละครจักรๆ วงศ์ๆ ที่เรารู้จักกันในสมัยนี้คือการที่แต่ละเรื่องนั้นมีจำนวนตอนที่เยอะมากเสียจนคนดูต้องเผลออุทานขึ้นมาว่า ‘ยังไม่จบอีกเหรอ’ ก็เพราะด้วยเนื้อเรื่องที่มีความละเอียดนี่เองที่ทำให้บางเรื่องต้องติดตามดูกันข้ามปีเลยกว่าจะจบ!
THE STANDARD POP จึงรวบรวมข้อมูลละครจักรๆ วงศ์ๆ จากช่อง 7 ที่ออกอากาศนานที่สุดและมีจำนวนตอนสูงที่สุด 10 อันดับว่ามีเรื่องไหนกันบ้าง
ภาพประกอบ: Weerapat L.
กรมสมเด็จพระเทพฯ พระราชทานพรปีใหม่ พร้อมภาพฝีพระหัตถ์ 'แมวไม่อยู่ หนูระเริง'
ภาพจาก PPTVHD36
ภาพจาก เรื่องเล่า เสาร์-อาทิตย์
กรมสมเด็จพระเทพฯ รับสั่ง ร.9 ทรงสั่งเสียเรื่องเดียว
วันที่ 31 ตุลาคม 2562 - 18:38 น.
https://www.komchadluek.net/news/royal/396414
"กรมสมเด็จพระเทพฯ" ทรงเปิดงาน "30 ปี ชัยชนะแห่งการพัฒนา" ณ ลานอีเดน เซ็นทรัลเวิลด์ รับสั่งถึงที่ "ในหลวง ร.9" ทรงสั่งเสียเรื่องเดียว ที่ไม่ทำให้ทรงผิดหวัง วันที่ 30 ตุลาคม 2562 เวลา 14.00 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์นายกกิตติมศักดิ์และองค์ประธานมูลนิธิชัยพัฒนา ทรงเปิดงาน “30 ปี ชัยชนะแห่งการพัฒนา” ณ ลานอีเดน ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ในการนี้ได้พระราชทานเรื่องเล่าเกี่ยวกับการดำเนินงานของมูลนิธิชัยพัฒนา ความตอนหนึ่งว่า
“...พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ไม่ได้ทรงสั่งเสียอะไรมากมาย แต่สั่งเสียอยู่เรื่องเดียวที่เป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะหนักคือ ต้องดำเนินการมูลนิธิชัยพัฒนาให้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ท่านจะอยู่หรือไม่อยู่ แต่ยังไงก็ต้องอาศัยความช่วยเหลือ ความร่วมมือจากผู้ที่อยู่ในมูลนิธิเอง และก็พวกที่อยู่นอกมูลนิธิ แต่ว่าก็มาช่วย ขอบคุณทุกๆ คนที่มาถึงวันนี้ 30 ปี คิดว่ายังทำงานได้ จะต้องไม่ให้ทรงผิดหวัง ตอนนี้ก็พยายามในเรื่องนี้ ก็ขยายไปสู่กลุ่มต่างๆ มากมาย....ช่วยกันทำถวายพระองค์มากขึ้น....”
https://www.komchadluek.net/news/royal/396414
"กรมสมเด็จพระเทพฯ" ทรงเปิดงาน "30 ปี ชัยชนะแห่งการพัฒนา" ณ ลานอีเดน เซ็นทรัลเวิลด์ รับสั่งถึงที่ "ในหลวง ร.9" ทรงสั่งเสียเรื่องเดียว ที่ไม่ทำให้ทรงผิดหวัง วันที่ 30 ตุลาคม 2562 เวลา 14.00 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์นายกกิตติมศักดิ์และองค์ประธานมูลนิธิชัยพัฒนา ทรงเปิดงาน “30 ปี ชัยชนะแห่งการพัฒนา” ณ ลานอีเดน ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ในการนี้ได้พระราชทานเรื่องเล่าเกี่ยวกับการดำเนินงานของมูลนิธิชัยพัฒนา ความตอนหนึ่งว่า
“...พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ไม่ได้ทรงสั่งเสียอะไรมากมาย แต่สั่งเสียอยู่เรื่องเดียวที่เป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะหนักคือ ต้องดำเนินการมูลนิธิชัยพัฒนาให้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ท่านจะอยู่หรือไม่อยู่ แต่ยังไงก็ต้องอาศัยความช่วยเหลือ ความร่วมมือจากผู้ที่อยู่ในมูลนิธิเอง และก็พวกที่อยู่นอกมูลนิธิ แต่ว่าก็มาช่วย ขอบคุณทุกๆ คนที่มาถึงวันนี้ 30 ปี คิดว่ายังทำงานได้ จะต้องไม่ให้ทรงผิดหวัง ตอนนี้ก็พยายามในเรื่องนี้ ก็ขยายไปสู่กลุ่มต่างๆ มากมาย....ช่วยกันทำถวายพระองค์มากขึ้น....”
Subscribe to:
Posts (Atom)