Custom Search

Mar 27, 2020

ตะลึง เทคโนฯ 3D เผย โควิด19 สุดร้าย ทำลายปอดผู้ป่วยในสหรัฐฯได้ขนาดนี้

ไทยรัฐออนไลน์
27 มี.ค. 2563 17:35 น.
ที่มา https://www.thairath.co.th/news/foreign/1805839





โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน ในสหรัฐฯ เผยแพร่วิดีโอจากเทคโนโลยี 3D แสดงให้เห็นปอดของผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายหนึ่ง ทั้งที่ก่อนหน้ายังไม่แสดงอาการป่วย ก่อนอาการทรุดหนักอย่างรวดเร็ว

เมื่อ 27 มีนาคม สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นและเว็บไซต์เดลี่เมลรายงานข่าว โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน ในสหรัฐฯ ได้เผยแพร่วิดีโอที่ได้จากเทคโนโลยี 360 องศา เสมือนจริง Virtual reality video หรือเทคโนโลยี 3D แสดงให้เห็นความร้ายกาจของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ว่าสามารถทำลายปอดของผู้ป่วยรายหนึ่งที่ติดเชื้อได้อย่างไร เพียงไม่กี่วันหลังจากก่อนหน้านั้นเขาไม่มีอาการป่วยหนักแต่อย่างใด มีเพียงแค่เป็นอาการคล้ายไข้หวัด คือ ไอ มีไข้

ภาพวิดีโอจากเทคโนโลยี 3D แสดงให้เห็นปอดทั้งสองข้างของผู้ป่วยชายชาวอเมริกันรายหนึ่ง อายุ 50-60 ปี ที่ติดเชื้อโควิด-19 และปอดได้ถูกเชื้อไวรัสโคโรนาทำลายเกิดอาการอักเสบแล้วบางส่วน ทั้งที่เพียงไม่กี่วันก่อนหน้านั้น เขาไม่มีอาการป่วยหนักเลย

นายแพทย์คีธ มอร์ทแมน หัวหน้าศัลยแพทย์ทรวงอกประจำโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน เปิดเผยว่า ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด19 รายนี้ถูกส่งตัวมาจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง หลังจากอาการโรคโควิด-19 ของเขาได้ทรุดหนักลงอย่างรวดเร็ว จนทางโรงพยาบาลแห่งนั้นซึ่งตรวจพบว่าเขาติดเชื้อโควิด-19 ต้องรีบส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลจอร์จ วอชิงตัน ทั้งที่ตอนที่ชายคนนี้ มาพบแพทย์ที่โรงพยาบาลนั้น เขามีอาการป่วยเพียงแค่มีไข้ ไอแห้งๆ และหายใจหอบถี่

เมื่อผู้ป่วยโควิด-19 อาการหนักรายนี้ ถูกส่งตัวมายังโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตันแล้ว ทางคณะแพทย์จึงรีบทำการรักษาทันที โดยใช้เทคโนโลยี 3D สแกนปอดทั้งสองข้างของเขา และพบว่ามีบางส่วนของปอดติดเชื้อโควิด-19 และเกิดการอักเสบถูกทำลายไปแล้ว ขณะที่บางส่วนของปอดยังปกติดี ซึ่งจะเห็นเป็นสีใสๆ ส่วนปอดที่ติดเชื้อและเกิดการอักเสบนั้น จะเห็นเป็นบริเวณที่มีสีเหลือง ซึ่งตามรายงานยังระบุว่าขณะนี้อาการของผู้ป่วยชายรายนี้ยังอยู่ในขั้นวิกฤติจนต้องได้รับการรักษาอยู่ในห้องไอซียู
ซีเอ็นเอ็นชี้ว่าภาพวีดิโอนี้คงแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของเชื้อโควิด-19 ว่าสามารถทำลายปอดของคนที่ติดเชื้อได้อย่างไร ซึ่งคงทำให้ผู้คนจำเป็นที่จะต้องจริงจังกับเรื่องนี้