- http://teetwo.blogspot.com/2019/12/tuesday-31st-december-2019.html
- http://teetwo.blogspot.com/2020/02/blog-post_12.html
- https://teetwo.blogspot.com/2020/07/blog-post_3.html
ภาพประกอบจาก มติชนออนไลน์
(6 พ.ย. 62) เวลา 11.00 น. ณ ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการ กทม. (เสาชิงช้า) :
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแถลงข่าวจัดกิจกรรม
“การแสดงดนตรีในสวนช่วยเหลือผู้ป่วยโรคไต เพื่อโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร”
ซึ่งกรุงเทพมหานคร ร่วมกับ คุณฮาร์ท สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล (หนึ่งในศิลปินคู่ เบิร์ดกับฮาร์ท) และภาคีเครือข่าย
จัดขึ้นเพื่อเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ร่วมบริจาคเงินเพื่อการกุศลช่วยเหลือผู้ป่วยโรคไต
โดยเงินรายได้จากการบริจาคในครั้งนี้จะนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยโรคไตและจัดหาเครื่องฟอกไตให้แก่
โรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร
สำหรับ “การแสดงดนตรีในสวนช่วยเหลือผู้ป่วยโรคไต เพื่อโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร” กำหนดจัดขึ้น 3 ครั้ง ในช่วงเย็นวันอาทิตย์ ระหว่างเวลา 16.30 – 19.00 น. ดังนี้ ครั้งที่ 1 วันที่ 17 พ.ย. 62 ณ อุทยานเบญจสิริ เขตคลองเตย ครั้งที่ 2 วันที่ 24 พ.ย. 62 ณ สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) เขตจตุจักร และครั้งที่ 3 วันที่ 1 ธ.ค. 62 ณ ลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เขตปทุมวัน ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวเป็นการแสดงดนตรีในรูปแบบ ฟรีคอนเสิร์ต โดยจะได้พบกับการแสดงดนตรีจาก คุณฮาร์ท สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล คุณเอ็ม ยืนชนม์ สมบัติเทพ (ฉายาเงาเสียงคุณสุเทพ วงศ์กำแหง) และการแสดงดนตรีจากวงแจ๊สทรีโอ กรุงเทพมหานคร โดยสามารถร่วมบริจาคได้ที่หน้างานแต่ละวัน และบริจาคทางบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชี นายสุทธิพงษ์ ทัดพิทักษ์กุล เลขที่บัญชี 041 – 278835 – 9 สาขาบางเขน สอบถามเพิ่มเติมโทร. 08 1984 9150
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครให้ความสำคัญกับการดูแลประชาชนให้มีสุขภาพกายและใจที่ดีด้วยตระหนักว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตอย่างมีความสุข โรคไต หรือ โรคไตเรื้อรัง คือการที่ไตมีภาวะการทำงานผิดปกติ หรือไตทำงานได้ลดลง หากไม่ได้รับการวินิจฉัยและดูแลรักษาอย่างถูกต้องตั้งแต่เริ่มเป็น จะมีโอกาสเป็นไตเรื้อรังระยะสุดท้าย ซึ่งต้องทำการรักษาด้วยวิธีการฟอกไตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ข้อมูลจากการศึกษาของสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย พบว่า คนไทยมีแนวโน้มเป็นโรคไตเรื้อรังเพิ่มมากขึ้นทุกปี นอกจากนี้ จากข้อมูลสถิติของสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร พบว่า พ.ศ. 2562 มีผู้ป่วยโรคไตที่จำเป็นจะต้องใช้เครื่องฟอกไตจำนวน 13,000 ราย และโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานครมีเครื่องฟอกไตสำหรับใช้ในการรักษาผู้ป่วย จำนวน 74 เครื่อง ทั้งนี้ การดูแลสุขภาพของประชาชน การเข้าถึงการรักษาพยาบาล รวมถึงการบริการสาธารณสุขที่มีมาตรฐานเป็นหนึ่งในนโยบายและภารกิจสำคัญของกรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครขอเชิญชวนประชาชนและหน่วยงานทุกภาคส่วนร่วมกิจกรรมดนตรีในสวนและร่วมบริจาคเงินในการจัดหาเครื่องฟอกไตช่วยเหลือผู้ป่วยโรคไตในโรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งนอกจากจะได้เพลิดเพลินไปกับบทเพลงไพเราะจากคุณฮาร์ทและคุณเอ็ม แล้ว ยังอิ่มบุญ อิ่มใจ ในบรรยากาศสบายๆ ท่ามกลางสวนสวยๆ ของกรุงเทพมหานครด้วย ซึ่งผู้ที่ร่วมบริจาคในครั้งนี้สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ด้วย อนึ่ง ผู้ป่วยโรคไตทั้งที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัดสามารถมาใช้บริการฟอกไตในโรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานครได้เช่นเดียวกัน
(พัทธนันท์...สปส. รายงาน)
"พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง" หรือ "บิ๊กวิน" ปัจจุบันอายุ 65 ปี เกิดเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2494
จบการศึกษาจากระดับชั้น ม.ศ.3 จากโรงเรียนด่านช้างวิทยา, โรงเรียนตำรวจภูธรภาค 7,
โรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 30 (นรต.30) จบหลักสูตรการบริหารงานตำรวจชั้นสูง รุ่นที่ 16
และหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 45
นับตั้งแต่รับราชการตำรวจมา พล.ต.อ. อัศวิน ได้ชื่อว่าเป็นนายตำรวจมือปราบฝีมือดี
ทั้งเคยผ่านคดีสำคัญ ๆ มามากมาย อาทิ คดีสังหารนายศุภฤกษ์ เรือนใจมั่น (โจ ด่านช้าง),
คดีคาร์บอมบ์รถอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร
และคดีจับกุมนายประชา โพธิพิพิธ (กำนันเซี้ยะ) เป็นต้น
เมื่อกลางปี 2551 พล.ต.อ. อัศวิน ได้ถูกปรับย้ายจากตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
ไปเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
กระทั่งกลางปี 2552 รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้มีกระแสข่าวว่า
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้พยายามจะผลักดันให้
พล.ต.อ. อัศวิน ขึ้นเป็นที่ปรึกษา สบ 10 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เปิดขึ้นใหม่
แต่ทางคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ไม่อนุมัติ แต่สุดท้ายช่วงเดือนตุลาคม 2552
พล.ต.อ. อัศวิน ก็ได้รับการโปรดเกล้าฯ เป็นพลตำรวจเอก (พล.ต.อ.)
และดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ต่อมา พล.ต.อ. อัศวิน ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรักษาการผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2
ก่อนย้ายจากตำแหน่งนั้นมาดำรงตำแหน่งรักษาการผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1
ในเดือนตุลาคม 2553 และในปลายปีเดียวกัน พล.ต.อ. อัศวิน ก็ได้รับฉายาจากสื่อมวลชนว่า
"อัศวินปิดจ๊อบ" เนื่องจากมีผลการทำงานที่ดุดัน รวดเร็ว และฉายา "มือปราบไผ่เขียว"
นอกจากนี้ พล.ต.อ. อัศวิน ยังได้รับผลโหวตจากการสำรวจความคิดเห็นจากเอแบคโพลด้วยว่า
เป็นนายตำรวจที่เป็นตำรวจมือปราบ
ที่ประชาชนรู้สึกชื่นชอบและบรรเทาเหตุอาชญากรรมได้มากที่สุด
ภายหลัง พล.ต.อ. อัศวิน เกษียณอายุราชการ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
โดยทำหน้าที่ดูแลงานด้านเศรษฐกิจและการคลัง โดยมีผลงานล่าสุด คือ
การเจรจาต่อรองกับผู้อยู่อาศัยชาวชุมชนป้อมมหากาฬ
ประวัติการรับราชการ พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง
- ปี 2520 รอง สวส. สน.สำเหร่
- ปี 2522 รอง สวส. สภ.อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี
- ปี 2524 รอง สวป. สภ.อ.เมืองนครปฐม
- ปี 2525 เลื่อนยศเป็น ร.ต.อ.
- ปี 2526 เป็น สว.ผ.5 กก.สส.บก.ภ.3 จ.นครปฐม
- ปี 2528 สว.หัวหน้า สภ.อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี
- ปี 2531 เลื่อนยศเป็น พ.ต.ท.
- ปี 2532 รอง ผกก.วท.บก.ภ.3 จ.นครปฐม
- ปี 2534 ผกก.วิทยาลัยพยาบาลตำรวจ
- ปี 2536 รักษาการ ผกก.สส.ภ.7 จ.นครปฐม
- ปี 2538 รองผู้บังคับการตำรวจกองปราบปราม (รอง ผบก.ป.)
- ปี 2541 ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงราย
- ปี 2542 ผู้บังคับการตำรวจกองปราบปราม (ผบก.ป.)
- ปี 2544 ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผู้ช่วย ผบช.ก.)
- ปี 2547 รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.)
- ปี 2549 ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2)
- ปี 2550 ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.)
- ปี 2551 ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร. ปป.51)