Custom Search

Sep 10, 2009

ต้องมีโชค : โชค บูลกุล

The Idol : โชค บูลกุล

Positioning Magazine
กุมภาพันธ์ 2548


ปี 2547 ก็เป็นอีกหนึ่งปีที่บริษัทในกลุ่มของเรา
(กลุ่มบริษัทฟาร์มโชคชัย) ยังมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ถึงแม้จะมีเสียงกระแสเกี่ยวกับ FTA
ซึ่งได้กระทบทางจิตวิทยากับผู้ประกอบการ

โดยเฉพาะในแวดวงอุตสาหกรรมนม
แต่การที่ทางเราได้ anticipate
หรือเตรียมปรับกลยุทธ์ ปรับทิศทางของธุรกิจ
เพื่อสู้กับการค้าเสรีก่อนปัญหาจะมาถึงตัวเรา
จึงทำให้ผลกระทบนั้นน้อยลง
โดยเราเริ่มหันมาพัฒนาโคนมสัญชาติไทยเพื่อส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
อาทิ ประเทศเวียดนาม และมาเลเซีย เป็นต้น

จนกระทั่งปัจจุบันยอดสั่งจองโคนมสัญชาติไทยที่ผลิตโดยฟาร์มโชคชัยเป็นที่
ต้องการอย่างมากและไม่ทันต่อยอดการสั่งจอง เพราะปัจจุบัน


ผู้ส่งออกโคนมที่เป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศในแถบเอเชียอาจเรียกได้ว่า
มีเพียงฟาร์มโชคชัยเท่านั้นที่สามารถทำได้แต่เพียงรายเดียว

แต่ถึงกระนั้นในปี 2548 ก็ใช่ว่าจะเป็นปีที่เราจะประมาทได้
ในกลยุทธ์ของการหาความสมดุลให้กับองค์กร
ทั้งแนวรุกถ้าเศรษฐกิจดี หรือแนวรับถ้าเศรษฐกิจเริ่มถดถอย
องค์กรจะต้องปรับตัวให้ได้ก่อนคนอื่น
ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยเชื่อว่าการ “ประสบความสำเร็จ” นั้นมีจริง
เพราะถ้าเราคิดอย่างนั้นอาจจะทำให้เราก้าวถอยหลังก็เป็นได้

เพราะความประมาทที่คิดว่าเรานั้นดีอยู่แล้ว
แต่ผมเชื่อในการดิ้นรนไขว่คว้าทะเยอทะยานสู่ความสำเร็จนั้นเป็นคุณสมบัติที่
ผู้บริหารรุ่นใหม่ควรมี อย่างไรก็ตาม
ในปี 2548 ผมก็ยังคงจะบริหารงานบนปรัชญา 10 ประการของผม คือ


1. ผู้บริหารต้องมีไหวพริบและสัญชาตญาณที่จะ
สามารถคาดเดาผลลัพธ์ได้ถูกต้องกว่า

ผู้อื่นหรือใกล้เคียงความเป็นจริงให้มากที่สุด
พร้อมทั้งยังมีไหวพริบในการมองเห็นโอกาส
และสามารถวิเคราะห์ทุกโจทย์ที่ผ่าน
เข้ามาอย่างมีหลักการ จากประสบการณ์
และมีการตื่นตัวที่อยากรับรู้ถึงการวิเคราะห์จากเหตุไม่ใช่จากผล
พร้อมมีความเชื่อมั่นในสัญชาตญาณของการตัดสินใจของตน
เพราะฉะนั้นคนที่จะฝ่าอุปสรรคไปได้นั้น
จะต้องรู้ว่าทำอย่างไร ไม่ใช่เพียงจะทำอะไร


2. ให้ความสำคัญกับทรัพยากรมนุษย์และการสร้าง
ผู้บริหารระดับกลางขึ้นมาทดแทน เพื่อการขยายวงจรของงาน
หรือเพิ่มความรอบคอบในการทำงานกันอย่างเป็น team work
พร้อมทั้งเพิ่มทักษะในการสื่อสารกันภายในองค์กร
และการนำเสนอข้อมูลหรือ presentation technique
ทั้งต่อผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา

เพื่อสร้างความ “ศรัทธา” ให้เกิดขึ้น ในองค์กร
เพราะในบางครั้งความศรัทธาต่อผู้บริหารนั้น
สำคัญกว่านโยบายขององค์กรเสียอีก


3. เข้าใจ business positioning หรือจุดยืนขององค์กร
โดยการที่รู้ถึงศักยภาพและความเสี่ยงขององค์กรอย่างชัดเจน
เพราะความเข้าใจถึงศักยภาพและความเสี่ยงจะเป็น indicator
ที่สำคัญที่สุดของการปรับตัวขององค์กรไม่ว่าจะเพื่อรุกหรือเพื่อรับต่อ

สถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น และมีการบริหารวงจรของเงิน
ให้สอดคล้องไปกับแผนที่บริษัทกำลังดำเนินอยู่


4. บริหารงานอย่างเป็นระบบและรู้จักขั้นตอนของการทำงาน
(รู้จักที่จะเริ่มต้นจาก 1) มีความอดทน มุ่งมั่น รับผิดชอบ

และมีวินัยในการทำงาน ถึงแม้จะผิดแต่มีความชัดเจน
ย่อมเป็นบทเรียนที่มีค่ากว่าถูกแต่คลุมเครือ
อย่าลืมว่าความสำเร็จไม่ได้มาจากหนึ่งการตัดสินใจใหญ่
ที่คลุมเครือแต่เป็นหลายๆ การตัดสินใจเล็กๆ ที่ชัดเจน


5. มีความคิดสร้างสรรค์และมีจินตนาการอยู่ตลอดเวลา
แต่เวลาลงมือทำต้องเป็นมืออาชีพ
หรือมีความคิดที่นอกกรอบแต่อยู่ในกรอบที่ตัวเอง
สามารถและมีศักยภาพที่จะทำ ได้
จงคิดแบบเด็กแล้วทำแบบผู้ใหญ่
แต่อย่าคิดแบบผู้ใหญ่แล้วทำแบบเด็ก
หรือคิดบนความฟุ้งเฟ้อ คิดเพียงความมั่งคั่ง

แต่ไร้ซึ่งความรับผิดชอบต่อผลลัพธ์

6. ความยั่งยืนของธุรกิจต้องมาจากการกล้า
ที่จะคิดและกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงธุรกิจ
ให้สอดคล้องไปกับกระแสของโลก


7. นักบริหารวันนี้จะต้องรอบคอบแต่ฉับไว

ในการตัดสินใจหรือทำแผนนโยบายขององค์กร

8. ธุรกิจต้องถูกดำเนินไปอย่างโปร่งใสและมีคุณธรรม
เพื่อให้คณะผู้บริหารไม่หลงทางไปติดกับดัก
หรือสิ่งที่พยายามปกปิดเอาไว้ หรือ
สร้างความคลุมเครือในนโยบายต่อผู้ปฏิบัติงานในองค์กร


9. อย่าเอาสิ่งที่เราขาดไปเปรียบเทียบกับสิ่งที่คนอื่นมี
เพราะในบางครั้งอาจทำให้เราท้อแท้และเกิดความโลภ

เมื่อนั้น objective และจุดยืนของธุรกิจของเราก็จะเกิดความคลุมเครือ
ซึ่งจะทำให้ผู้บริหารขาดสมาธิในการวิเคราะห์โจทย์
ขาดความเชื่อมั่นในการกำหนดแผนงาน
และท้ายที่สุดลงเอยด้วยความผิดพลาดนั่นเอง


10. ต้องมี “โชค”


----------------------------------------------

โชค บูลกุล

ผู้บริหารหนุ่มที่ถูกจับตามองในช่วงหลังวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540
ล่าสุดเขายังได้รับเลือกจากผู้อ่านนิตยสาร POSITIONING

ให้เป็น Young Executive ที่มีคะแนนเป็นอันดับ 1

โชค เป็นทายาทคนโตของโชคชัย บูลกุล ผู้บุกเบิกฟาร์มโชคชัย
ต้นตำนานคาวบอยเมืองไทย เขาไม่เพียงแต่พลิกธุรกิจที่เคยติดลบให้ทำกำไร
แต่ยังพัฒนาให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับ
และเป็นฟาร์มโคนมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้