จรัล มิวเซียม
(4 ก.ย.49) ตัวแทนชาวเชียงใหม่เข้ายื่นจดหมายเสนอนายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ เพื่อจัดสร้างอนุสาวรีย์จรัล มโนเพ็ชร ศิลปินชาวล้านนา
เนื่องในวาระที่เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 49 ที่ผ่านมาเป็นวันครบรอบ 5 ปีของการจากไปของ
ศิลปินล้านนาท่านนี้
เนื่องในวาระที่เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 49 ที่ผ่านมาเป็นวันครบรอบ 5 ปีของการจากไปของ
ศิลปินล้านนาท่านนี้
ทั้งนี้ชาวเชียงใหม่นำโดย รศ.จีริจันทร์ ประทีประเสน และรศ.ดร.ธเนศวร์ เจริญเมือง พร้อมด้วยจำนวนผู้ที่ลงชื่อแนบท้ายมาในจดหมายกว่า 258 คน เสนอเหตุผลสำคัญในการจัดสร้างอนุสาวรีย์ดังนี้
1.ตั้งแต่ปี 2520 เป็นต้นมา คุณจรัล มโนเพ็ชร เป็นศิลปินชาวเชียงใหม่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับประเทศในฐานะศิลปินคนเมือง เพลงของคุณจรัลจำนวนมากเช่น น้อยใจยา อุ้ยคำ สาวเชียงใหม่ สาวมอเตอร์ไซค์ ฯลฯ ทำให้ภาษาคำเมืองเป็นที่รู้จักและชื่นชอบของคนทั้งประเทศ คุณจรัลได้สร้างให้แก่คนเชียงใหม่ และเมืองเชียงใหม่อย่างสูง ทำให้คนเมืองรู้สึกภาคภูมิใจ รักและหวงแหนท้องถิ่นของตน
2.คุณจรัล มโนเพ็ชร ทำให้คนไทยจำนวนมากรู้จักอาหารพื้นเมืองของเชียงใหม่ ต้องการขึ้นมาท่องเที่ยวเชียงใหม่ รับประทานอาหารของคนเมือง ชื่นชอบบทเพลงของคนเมือง สนใจศึกษาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมล้านนา ผลงานของคุณจรัลมีส่วนสำคัญในการช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของเชียงใหม่
3.คุณจรัล มโนเพ็ชร ได้สร้างคุณูปการมากมายให้แก่วงการศิลปะ และวัฒนธรรมเช่น ได้จัดการแสดงสด นำเอาภาษาเมืองไปเผยแพร่ที่กรุงเทพฯ ได้รับรางวัลสุพรรณหงษ์ในฐานะผู้แสดงนำชายในภาพยนตร์เรื่องด้วยเกล้า ฯลฯ นอกจากนี้ยังได้เข้าร่วมงานการกุศลต่างๆ จำนวนมากเพื่อให้การจัดงานเหล่านั้นได้รับทุนนำไปช่วยเหลือเด็กและเยาวชนในเชียงใหม่และภาคเหนือ
4.คุณจรัล มโนเพ็ชร ได้ทำให้วงการศิลปวัฒนธรรมของล้านนาเกิดความตื่นตัว ทำให้เพลงคำเมืองเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นที่สำคัญของประเทศ มีศิลปินรุ่นหลังๆ จำนวนมากเกิดขึ้น และผลิตงานตามรอยคุณจรัล เกิดเพลงคำเมืองมากมายขับกล่อมประชาชน ชุมชนต่างๆ สนใจสืบสานศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นมากขึ้นเป็นลำดับ
ในรอบ 20 กว่าปีที่ผ่านมา ยากนักที่จะหาศิลปินท่านใด ที่มีความสามารถ และได้สร้างผลงานสำคัญมากมายเทียบเท่าคุณจรัล มโนเพ็ชร การสร้างอนุสาวรีย์เพื่รำลึกถึง และยกย่องคุณจรัล ณ จุดสำคัญใดจุดสำคัญหนึ่งในเมืองเชียงใหม่
นอกจากจะเป็นการยกย่องคนที่ทำงานเพื่อสังคม
ยังจะเป็นสถานที่แห่งความภาคภูมิใจให้คนเชียงใหม่
และผู้มาเยือนได้ไปคารวะ เรียนรู้ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ
เป็นหน้าเป็นตาของเมือง เกิดบรรยากาศที่ดี และยังส่งผลดีต่อผู้บริหารเมือง
ในฐานะผู้นำที่ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น
สร้างแบบอย่างที่ดีให้แก่คนรุ่นหลังได้ศึกษาจดจำ
ฝันมีสองอย่างที่นับนิ้วได้ตอนนี้
คือฝันกลางวัน
หรือความใฝ่ฝัน
ไม่ใช่ฝัน ในยามค่ำคืน
ใครว่าการเป็นคนช่างฝันนั้นคือการเป็นคนเลื่อนลอย
ที่จริงคนทุกคนนั้นมีความฝันลึกๆ
เป็นของตัวเองแล้วทั้งนั้น
สั่งสมมาตั้งแต่เกิด
บางคนเกิดมาในครอบครัวแตกร้าว
ฝันแรกของพวกเขาอาจจะเหมือนๆ กันคือ
"ฉันจะสร้างครอบครัวของฉันให้อบอุ่น และมีความสุข"
เคยได้ลองตรวจสอบความฝันของเด็กวัยรุ่นนักศึกษากลุ่มใหญ่
ส่วนใหญ่ฝันใกล้และคล้ายๆ กัน
คือฝันอยากดูแลบุพการีให้ดีที่สุด
ฝันอยากเป็นคนดี
และฝันอยากมีครอบครัวที่อบอุ่นกรุ่นสุข
แต่ฝันอีกแบบคือฝันประจำตัวของแต่ละคน
บางคนอยากเป็นนักการบริหาร
บางคนอยากเป็นนักการเมือง
บางคนอยากเป็นพ่อค้า
บางคนอยากเป็นท่านทูต
บางคนอยากเป็นนักร้อง
บางคนอยากเป็นนักกวี
บ้างก็อยากเป็นนักเขียน
เคยได้มีโอกาสไปสอนเด็กเล็กๆ
วาดรูปความฝันของตน
เด็กในต่างจังหวัดฝันต่างกับเด็กในเมืองมากมาย
ฝันของเด็กพวกนี้เป็นฝันที่เรียบง่าย
เป็นฝันสบายๆ
ฝันอยากเป็นครู
ฝันอยากเป็นชาวไร่
ฝันอยากเป็นชาวนา
ฝันอยากเป็นทหาร
ฝันอยากเป็นตำรวจ
เด็กๆ ในต่างจังหวัดฝันกันเท่านี้จริงๆ
สามสิบสี่สิบคนก็ฝันกันวนไปวนมา
แต่เด็กชายที่มีชื่อว่า "กัน" ฝันแปลก
เด็กชายฝันอยากเป็น "หมา"
ฉันพยายามสืบไปให้ถึงสาเหตุของความฝันของเด็ดชาย"กัน"
แต่ก็ยังไปไม่ถึง
เพราะนอกจากวาดรูปแล้ว เด็กชาย "กัน"
ไม่ค่อยพูดค่อยจาเท่าไรเลย
และหากถามคำถามเจ้าหนูน้อยเข้ามากๆ
ไอ้ตัวเล็กก็จะเดินหนีไปเฉยๆ เลย
นี่กระมังเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ของคำพูดที่ว่า "ยิ่งตามหา ยิ่งหาไม่เจอ"
ทีนี้หันมาถึงฝันของพวกเรากันบ้าง
คงมีบางคนที่มีฝันเป็นของตัวเอง
ฝันอยากเป็นนักกีฬา
ฝันอยากเป็นนักดนตรี
ฝันอยากเป็นนักวาดรูป
เป็นฝันง่ายๆ ที่ยังไปไม่ถึง
บางคนไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่าตัวเองฝันอยากเป็นอะไร
เพราะไม่เคยถามตัวเอง
เพียงแต่ปล่อยให้ตัวเองกับกาลเวลาขับเคลื่อนฝ่าฟันมาเรื่อยๆ
ทำตามที่สังคมกำหนดและโอนอ่อนอย่างเข้าใจ ไม่ขัดขืน ไม่มีคำถาม
แต่ก็มีนักฝันบางกลุ่มที่ต้องขัดแย้งกับครอบครัว
ขัดแย้งกับพ่อแม่ผู้ปกครองผู้พยายามจะชี้นำแนวทางที่ไม่อยากเป็นให้
เพียงแค่เห็นว่าเป็นหนทางที่สดสวยปลอดภัย - ผู้ใหญ่ทำลายฝัน
เกิดเป็นคนต้องควานหาฝันของตัวเองให้เจอ
ชีวิตจะมีค่าและมีความสุขเมื่อเราได้ทำในสิ่งที่เรารักและเราชอบ
บางทีเราอาจจะได้ทำงานอย่างไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเลยก็ได้
ถ้าเราได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักและชอบ ตามหาฝันของเราให้เจอ
ถามตัวเองว่าตัวเองอยากเป็นอะไร
ถามตัวเองให้ชัดว่าตัวเองมีความสุขเมื่อได้อยู่กับกิจกรรมแบบไหน
อย่ากลัวที่จะแตกต่าง อย่ากลัวที่จะต้องเริ่มนับหนึ่ง
อย่ากำจัดความสามารถ
อย่าตอบสนองความฝันของคนอื่น
สร้างกรอบของความฝันส่วนตัวให้ชัดเจน ฝึกฝน หมั่นเพียร เรียนรู้
ก้าวไปสู่ความฝันของตัวเอง ความฝันเป็นเรื่องส่วนตัว
ไม่จำเป็นที่เราจะต้องฝันเหมือนใคร ฝันที่เป็นจริง
เมื่อได้เจอความฝันของตัวเองแล้ว เราก็จะรู้จักกับความสุขที่แท้จริง
"ระหว่างทางที่จะเดินไปเจอความฝันของตัวเองนั้น
มันอาจจะไม่ราบรื่นโรยรอด้วยกลีบกุหลาบ อย่าได้ท้อเสียก่อน"
ชีวิตนี้สั้นมาก อีกร้อยปีก็ไม่มีใครจำเราได้แล้ว
เมื่อชีวิตนี้เป็นของตัวเราเอง
เราก็สมควรอยู่กับความฝันความต้องการของตัวเอง
อย่าลืมว่าหากเราเก่งกล้ามีความสามารถ
ถึงขนาดได้ขึ้นปกครองบ้านเมือง
หรือเป็นเจ้าของบริษัทใหญ่โตที่ประสบความสำเร็จ
หากแต่มันไม่ใช่ความฝันของเรา
เราก็จะไม่พบความสุขที่แท้จริง
และจะมีชีวิตอยู่กับตัวเองอย่างหลวมๆ
ไม่อยากตื่นนอนขึ้นมาตอนเช้า
ไม่อยากเข้าประชุม
ไม่อยากคิด
ไม่อยากวางแผน มีชีวิตไปเรื่อยๆ
แม้มุมและภาพภายนอกที่คนมองคนเข้ามาจะดูสวยสดสักเพียงไหน
หากมุมข้างในหรือตัวเราเองไม่มีความสุขแล้ว
การยอมรับจอมปลอมจากสังคมภายนอกมันก็ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย
กล้าฝัน กล้าสานฝัน กล้าประกาศฝัน กล้าเดินทางตามความฝัน
อย่าได้กลัวความผิดพลาด
บางทีการวิ่งวุ่นทำงานหนักเพื่อให้ได้เงินมามากๆ
แต่ลู่ที่เราวิ่งนั้นมันสวนทางกับความฝันของเราแล้ว
มันก็ทำให้เราเหนื่อยเปล่าและไม่พบกับความสุขที่แท้จริงเลย
วันนี้คุณได้เจอความฝันของตัวเองหรือยัง
หรือยังมัวแต่สานฝันของคนอื่น หรือยังมัวขับเคลื่อนตัวเองไปตามสมัยนิยม
หากวัยและเวลายังพอเหลืออยู่ จะเลือกตัดสินใจใหม่อีกครั้งก็คงยังไม่สาย
หากกลัวว่าคนรอบข้างจะไม่เข้าใจ
คงต้องเริ่มต้นและกล้าอธิบายความต้องการที่แท้จริงของตัวตนของตัวเอง
นึกถึงเพลงของคุณจรัล มโนเพ็ชร ขึ้นมาโพล่งๆ อย่างหามาปี่มีขลุ่ยไม่
"จะปลอบดวงใจให้เธอหายร้าวราน จะเป็นสะพานให้เธอเดินไปแน่นอน
จะเป็นสายน้ำเย็นดับกระหายยามโหยอ่อน คอยอวยพรให้เธอสมดั่งหวังได้ นิรันดร์"
หรือเพลงของคุณเต๋อ ผู้ชายหนวดสวยของใครหลายๆ คน
"อยากจะเป็นจะมุ่งไป เป็นอะไรดีๆ ซักอย่าง... คงจะมีหนทางให้ฝันกันไป... ....
แม้จะล้มก็คิดจะคลาน เหงื่อกระซ่านกระเซ็น..."
มีฝันแล้วก็ต้องเดินไปให้ถึงฝัน ชนะตัวเองมันดีกว่าชนะคนอื่นเป็นไหนๆ
ใครที่กล้าออกมายืนแล้วบอกว่าฉันได้ทำในสิ่งที่ฉันฝันไว้
ฉันอยู่กับความฝันในโลกแห่งความเป็นจริง คนนั้นเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลก