ที่มา sondhitalk
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 18 มิถุนายน 2563 เจ้าพนักงานกระทรวงวัฒนธรรม อัญเชิญกล่องเพลิงพระราชทานมาตั้งไว้เบื้องหน้า
เพื่อเตรียมพระราชทานเพลิงศพ “นายศรัณยู วงษ์กระจ่าง” เป็นกรณีพิเศษ ณ ศาลาเศรษฐี วัดนาคปรก เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร
โดยมีภรรยา “เปิ้ล หัทยา” และลูกสาว “หนุน ศุภรา-หนัง ศีตลา” พร้อมด้วย “เอก ธเนศ”
พี่ชายผู้ล่วงลับ ยืนรอรับ ยังความปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ แก่ครอบครัววงษ์กระจ่าง
ทั้งนี้ ภายในบริเวณงาน มีการประดับประดาดอกไม้สีขาว ซึ่งเป็นสีที่ตั้วชอบไว้ทั่วทั้งงาน นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งจอภาพตามเต็นท์
เพื่อให้ประชาชนที่มาร่วมงานได้ชมบรรยากาศในพิธี สำหรับของชำร่วยในงาน ครอบครัวได้ทำเป็นหนังสือที่ระลึกรวมประวัติ
และผลงานของตั้วจากอดีตจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต จำนวน 2,000 ชุด ซึ่งภายในถุงยังบรรจุหนังสือบทสวดมนต์มอบให้เป็นที่ระลึกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีการนำ Mask ของยี่ห้อฟลายนาว (FlyNow)
และรูปถ่ายตั้วมาแจกให้กับประชาชนที่มาร่วมงาน โดยการนี้ หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล เป็นประธานทอดผ้าบังสุกุล
สำหรับขั้นตอนพิธีการต่างๆ เมื่อเวลา 14.30 น. พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ท่าน ว.วชิรเมธี) ขึ้นแสดงธรรม ประมาณ 40 นาที
จากนั้นได้มีการแสดงอาลัยจากเพื่อนสมัยเรียน รวมถึงเพื่อนในวงการ จำนวน 4 ชุด ได้แก่ ชุดที่ 1 การขับร้องเพลงสถาบัน
โดยเพื่อนพี่น้องชาวสวนกุหลาบ เพลง “ชมพู-ฟ้า อาลัย”, ชุดที่ 2 เป็นการเดี่ยวแซ็กโซโฟน
โดยคุณแต๋ง ภูษิต ไล้ทอง เพลง “ลาแล้วจามจุรี” และบรรเลงดนตรี โดย คุณหนึ่ง จักรวาล, ชุดที่ 3
เป็นการขับลำนำบทกวี โดยอาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ บทกวี “ดาวศรัณยู” และขันเสนาะขลุ่ย
โดยอาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี และการแสดงอาลัยชุดที่ 4 เป็นการขับร้องเพลง “พักตรงนี้”
โดย คุณนันทิดา แก้วบัวสาย และบรรเลงดนตรี โดย คุณบอม สุทธิศักดิ์ สินเจริญ
บรรยากาศในงานเป็นไปอย่างโศกเศร้า วันนี้มีคนที่รักตั้วมาร่วมไว้อาลัยที่วัดเป็นจำนวนมากนับพันคน
โดย “นายสนธิ ลิ้มทองกุล” ซึ่งรักตั้วเหมือนน้องชายแท้ๆ พร้อมด้วย
อดีตแกนนำพันธมิตรฯ ก็ได้เดินทางมาร่วมงาน
อั๋น วัชระ ปล่อยโฮ! เปิดใจถึง ตั้ว ศรัณยู เพื่อนรัก
อั๋น วัชระ ปล่อยโฮ! เปิดใจถึง ตั้ว ศรัณยู เพื่อนรัก
เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ที่ วัดนาคปรก ซ.เทอดไท 49 เขตภาษีเจริญ อั๋น วัชระ แวววุฒินันท์ กรรมการบริหารและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท ตั้ว ศรัณยู วงษ์กระจ่าง นักแสดงและผู้กำกับชื่อดัง เดินทางมาร่วมไว้อาลัยและส่งดวงวิญญาณเพื่อนรักครั้งสุดท้าย
จากนั้น อั๋น วัชระ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในฐานะผู้จัดเตรียมงาน ว่า "พี่ก็เป็นคนทำงานอีเวนต์มาเยอะในชีวิตนี้ แต่กับงานของตั้วมันเหมือนอีเวนต์ที่แบบเราคาดการณ์ลำบาก คือเรารู้ตั้งแต่วันแรกแล้วว่าคนรักตั้วมากขนาดไหน ความเป็นเพื่อน เราก็รู้ว่าเขาเป็นคนดัง มีความสามารถและมีคนรักเขาเยอะ แต่เราไม่รู้เลยว่าคนรักเขามากขนาดนั้น วันที่รดน้ำศพพี่ตกใจมาก ที่มีสื่อมวลชนมาขนาดนั้น มีแขกขนาดนั้น
เราก็วางงานกันมาเรื่อยว่าวันสุดท้ายจะทำยังไงดีให้มันราบรื่นมากที่สุด ซึ่งมันก็มาจากทั้งครอบครัว จากทีมงานหลายๆ ส่วนมาช่วยกัน อันดับแรกคือทำยังไงให้คนที่มาสามารถจะส่งโอกาสสุดท้ายกับพี่ตั้วได้ ซึ่งแน่นอนว่าสถานที่ทุกคนเข้าไปข้างในไม่ได้
ถ้าไม่เกิดโควิดก็อาจจะเข้าไปได้เยอะกว่านี้ เลยต้องมีการขยายเต็นท์ขึ้นมา มีการถ่ายทอดสด ให้ทุกคนที่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เข้าไปข้างในรับรู้ถึงโอกาสสุดท้ายที่จะส่งพี่ตั้วไปสวรรค์ ไม่ว่าจะเป็นการเทศน์ การแสดงต่างๆ ที่พยายามทำให้เกิดอารมณ์ร่วมที่ถึงแม้จะดูผ่านจอได้รับรู้ได้
เพราะคนที่ดูข้างในเขารับได้อยู่แล้ว แล้วการจราจรจะยังไง เพราะรถก็เยอะเนอะ การกรองคนจะเข้าออกในเรื่องของการแพร่ระบาดด้วย แล้วมันก็ขยายขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นสิ่งที่ทุกคนรีเควสต์เองเลยว่ามาทำให้ได้มั้ย ต้องขอขอบคุณแทนตั้วนะครับ"
ดอกไม้สีขาวทั้งงานมีความหมายไหม?
"เรามองว่าสีขาวเป็นสีที่มีความบริสุทธิ์อยู่แล้วนะครับ เลยเลือกใช้สีขาวประดับงาน"
"เรามองว่าสีขาวเป็นสีที่มีความบริสุทธิ์อยู่แล้วนะครับ เลยเลือกใช้สีขาวประดับงาน"
ได้บอกเพื่อนไหมว่าทำให้เต็มที่นะ?
"บอกครับ ตั้งแต่วันแรกแล้วที่มาแล้วรู้ว่าต้องมาช่วยกันทำงาน ต้องบอกว่าพี่ไม่ได้เป็นพ่องานหลัก แต่พอมาแล้วมันเห็นถึงอะไรหลายๆ อย่างที่มันต้องมีคนทำ มีคนรับผิดชอบแล้วพอหันไปหันมา...ก็แบบเปิ้ลพี่เอง แต่พี่คนเดียวไม่ได้ ต้องเอาทีมงานมาช่วย ค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา บอกตั้วตั้งแต่วันแรกว่าขอให้การจัดงานผ่านไปได้ด้วยดี ขอให้ทุกคนมาแล้วเกิดความประทับใจ พูดกับเพื่อนว่า "ขอให้มึงสบายใจนะว่ากูจะช่วยดูแลทุกอย่างให้ดีที่สุด"
แม้กระทั่งตัวหนังสือมีเวลาทำน้อยมากซึ่งตอนที่พี่ไปเยี่ยมพี่ตั้วก่อนหน้าที่จะวันเสียเนี่ย คุยกับพี่เปิ้ลว่าจะยังไงเรื่องงานต่างๆ จะจัดเมื่อไหร่ ของชำร่วยจะเป็นยังไง ทุกคนก็อยากมีหนังสือแล้วพี่ตั้วมีเรื่องราวต่างๆ มาก ต้องขอขอบคุณน้องเจ๊าที่เอาทีมงานทำหนังสือมาด่วนจนเสร็จมาเป็น 2 เล่มนี้ บอกตั้วว่าขอให้กูทำหนังสือให้สำเร็จนะ
"บอกครับ ตั้งแต่วันแรกแล้วที่มาแล้วรู้ว่าต้องมาช่วยกันทำงาน ต้องบอกว่าพี่ไม่ได้เป็นพ่องานหลัก แต่พอมาแล้วมันเห็นถึงอะไรหลายๆ อย่างที่มันต้องมีคนทำ มีคนรับผิดชอบแล้วพอหันไปหันมา...ก็แบบเปิ้ลพี่เอง แต่พี่คนเดียวไม่ได้ ต้องเอาทีมงานมาช่วย ค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา บอกตั้วตั้งแต่วันแรกว่าขอให้การจัดงานผ่านไปได้ด้วยดี ขอให้ทุกคนมาแล้วเกิดความประทับใจ พูดกับเพื่อนว่า "ขอให้มึงสบายใจนะว่ากูจะช่วยดูแลทุกอย่างให้ดีที่สุด"
แม้กระทั่งตัวหนังสือมีเวลาทำน้อยมากซึ่งตอนที่พี่ไปเยี่ยมพี่ตั้วก่อนหน้าที่จะวันเสียเนี่ย คุยกับพี่เปิ้ลว่าจะยังไงเรื่องงานต่างๆ จะจัดเมื่อไหร่ ของชำร่วยจะเป็นยังไง ทุกคนก็อยากมีหนังสือแล้วพี่ตั้วมีเรื่องราวต่างๆ มาก ต้องขอขอบคุณน้องเจ๊าที่เอาทีมงานทำหนังสือมาด่วนจนเสร็จมาเป็น 2 เล่มนี้ บอกตั้วว่าขอให้กูทำหนังสือให้สำเร็จนะ
แล้วมันก็เสร็จออกมาผมเชื่อว่าทุกคนก็อยากเก็บเป็นที่ระลึกเนอะ ความจริงมันมีเรื่องราวมากกว่านี้ถ้ามีเวลามากกว่านี้ก็เชื่อว่ามันก็ดีที่สุดแล้วแหละ แล้วก็บอกตั้วว่าขอให้การจัดงานวันนี้ช่วยกันส่งมึงขึ้นสวรรค์อย่างราบรื่น ที่ผ่านมาคือฝนตกทุกวัน ตอนเย็นด้วยถล่มทลาย ขออย่าให้ฝนตก วันนี้ก็ฝนไม่ตกเลยคงเพราะตั้วสงสารทีมงานมั้ง ไม่อยากให้เหนื่อยจนเกินไป"
ความเป็นเพื่อน ความผูกพัน ในสายตาของเพื่อนพี่ตั้วเป็นคนยังไง?
"เขาเป็นคนดีมาก ตั้งแต่เรียนแล้วเขารักเพื่อนมาก แล้วเมื่อเขาโตขึ้นมาสู่โลกการทำงานใครขอให้เขาช่วยทำอะไรเขาไม่เคยขัด ไม่ว่าจะเพื่อนหรือคนในวงการต่างๆ นานา ตอนนี้ก็รู้เลยว่าเพราะเป็นเขา วันนี้ทุกคนเลยมาด้วยความรัก(ร้องไห้)
"เขาเป็นคนดีมาก ตั้งแต่เรียนแล้วเขารักเพื่อนมาก แล้วเมื่อเขาโตขึ้นมาสู่โลกการทำงานใครขอให้เขาช่วยทำอะไรเขาไม่เคยขัด ไม่ว่าจะเพื่อนหรือคนในวงการต่างๆ นานา ตอนนี้ก็รู้เลยว่าเพราะเป็นเขา วันนี้ทุกคนเลยมาด้วยความรัก(ร้องไห้)
เขาไม่เคยคิดถึงตัวเองเลย เขาคิดถึงคนอื่นตลอด แม้กระทั่งวันที่เขาป่วยเขาก็ไม่เคยบอกเพื่อน ก่อนหน้าที่จะเสียชีวิตก็ยังโทรคุยกัน เขาอยู่โรงพยาบาลเขาไม่บอกเลยว่าเป็นอะไร ไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วง แต่ก็ยังดีใจที่ได้มาเห็นเขาก่อนเขาจะเสีย เพราะเปิ้ลก็บอกว่าไม่ได้แล้วแหละต้องให้เพื่อนรู้แล้ว"
อยากพูดอะไรถึงพี่ตั้วไหม?
"ตั้วก็เป็นบทพิสูจน์นะครับว่าคนเราเกิดมาชาตินึงสามารถทำคุณค่าให้กับตัวเองได้ อยู่ที่การกระทำของตัวเอง ชีวิตไม่ว่าจะสั้นหรือยาวเนี่ยมันอยู่ที่ตัวเองทั้งนั้น และเขาทำแต่ความดี เขาเป็นผู้มีแต่ให้อย่างจริงๆ นะครับ ขอให้ตั้วมีความสุขสงบไม่ว่าจะเกิดมาอีกหรือเปล่าหรือยังไงก็ยังอยากจะเจอเขาอีก เป็นเพื่อนเขาอีกตลอดไป"
"ตั้วก็เป็นบทพิสูจน์นะครับว่าคนเราเกิดมาชาตินึงสามารถทำคุณค่าให้กับตัวเองได้ อยู่ที่การกระทำของตัวเอง ชีวิตไม่ว่าจะสั้นหรือยาวเนี่ยมันอยู่ที่ตัวเองทั้งนั้น และเขาทำแต่ความดี เขาเป็นผู้มีแต่ให้อย่างจริงๆ นะครับ ขอให้ตั้วมีความสุขสงบไม่ว่าจะเกิดมาอีกหรือเปล่าหรือยังไงก็ยังอยากจะเจอเขาอีก เป็นเพื่อนเขาอีกตลอดไป"
