Custom Search

Jan 11, 2020

“พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร'” ยอดตำรวจตงฉิน-ปรมาจารย์อาชญนิยาย (2472 - 2561)



ภาพจาก Workpoint News
ที่มา https://mgronline.com/daily/detail/9610000061926


นับเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่อีกครั้งสำหรับประเทศไทย เมื่อ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร” นายตำรวจใหญ่ นักเขียนอาชญนิยายระดับตำนาน ผู้ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี 2541 ถึงแก่อนิจกรรมลงอย่างสงบ เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2561เวลาประมาณ 22.35 น. ที่โรงพยาบาลตำรวจ หลังจากเข้ารับการรักษาโรคมะเร็งตับอ่อน
พล.ต.อ.วสิษฐ ได้รับยกย่องว่าเป็น ตำรวจตงฉิน” เคยเป็นนายตำรวจราชสำนักประจำ อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กระทั่ง ตำแหน่งล่าสุดเป็น ประธานมูลนิธิองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย), นายกสมาคมตำรวจตระเวนชายแดนแห่งประเทศไทย, ประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบงานตำรวจ ฯลฯ
เกียรติยศทางวรรณศิลป์ พล.ต.อ.วสิษฐ ถือเป็นนักเขียนที่สร้างงานต่อเนื่องเกือบกึ่งศตวรรษ โดยได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี 2541 ผลงานที่โดดเด่นได้แก่งานเขียนประเภทหัสคดี นวนิยายแนวการเมือง และอาชญนิยาย เคยใช้นามปากกา “โก้ บางกอก” สร้างผลงาน อาชญนิยายชิ้นโบว์แดงจำนวนมาก มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดยเขียนจากประสบการณ์สายงานตำรวจ นิยายของเขามักมีตัวเอกเป็นตำรวจที่มีอุดมการณ์
พล.ต.อ.วสิษฐ เข้าสู่วงการนักเขียนก่อนรับราชการตำรวจกระทั่งเกษียณ คลุกคลีกับนิตยสารเพลินจิตต์ตั้งแต่วัยเด็ก ชอบอ่านนวนิยายของ ป.อินทรปาลิต (ผู้เขียน พล นิกร กิมหงวน) สมัยเป็น นิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เขียนเรื่อง “ปากกาพา (ให้เป็น) ไป” ในวารสาร “มหาวิทยาลัย” ของสโมสรนิสิตจุฬาฯ
นิยมเขียนเรื่องเกี่ยวกับตำรวจที่สั่นสะเทือนให้กับวงการสีกากี เริ่มเขียนนวนิยาย “สารวัตรเถื่อน” เป็นเรื่องแรก ลงในหนังสือมติชนสุดสัปดาห์ มีตัวละครชื่อ “ธนุส นิราลัย” เป็นพระเอก สวมรอยเป็นสารวัตรใหญ่ ตัดหน้าสารวัตรตัวจริงที่จะไปรับตำแหน่งในอำเภอแห่งหนึ่งที่สมมติขึ้น มีเป้าหมายกำจัดอาชญากรรมระดับเจ้าพ่อ หรืออย่างเรื่อง “ลว.สุดท้าย” (ลว. หมายถึง ลาดตระเวน) เรื่องราวของนายตำรวจตงฉินในอุดมการณ์ของ พล.ต.อ.วสิษฐ ทำหน้าที่ปฏิบัติภารกิจเสี่ยงตาย ในฐานะตำรวจตระเวนชายแดน
นอกจากนี้ยังมีผลงานนวนิยายชื่อดัง อาทิ จันทน์หอม, ดงเย็น, ลว.สุดท้าย, แม่ลาวเลือด, หักลิ้นช้าง, เลือดเข้าตา, สันติบาล, สารวัตรใหญ่, เบี้ยล่าง, บ่วงบาศ, ประกาศิตอสูร, พรมแดน, อวสานสายลับ ฯลฯ
และนิยายหลายเรื่องของเขามีผู้นำไปสร้างภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ จนทำให้งานเขียนเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย อาทิ สารวัตรเถื่อน, หักลิ้นช้าง, บ่วงบาศ, ประกาศิตอสูร, แม่ลาวเลือด, เลือดเข้าตา ฯลฯ
รวมทั้ง ผลงานความเรียงและอื่นๆ อาทิ รอยพระยุคลบาท, สมาธิกับการทำงาน, อยาก, ปฏิรูปตำรวจ ฝันหรือจะเป็นจริง?, ชีวิตตำรวจ, อีฉุยอีแฉก, สัพเพเหระคดี, เหตุเกิดในกรุงรัตนโกสินทร์, รำลึกชาติ (นี้), รำลึกชาติ (นี้) อีก, พูดจาประสาตำรวจ 1-2, ความผิดพลาดของนายหมาก, ความ (ไม่รู้) เรื่องเมืองจีน ฯลฯ


เอกลักษณ์อันโดดเด่นงานเขียนของ พล.ต.อ.วสิษฐ สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมของมนุษย์และความสำนึกทางสังคมผ่านวรรณศิลป์อย่างมรชั้นเชิง งานประพันธ์แต่ละประเภทเป็นวรรณกรรมที่ทรงคุณค่า สร้างความตระหนักถึงปัญหาตลอดจนหน้าที่ของตนในสังคม
ประวัติโดยสังเขป พล.ต.อ.วสิษฐเกิดวันที่ 14 พ.ย. 2472 ที่ จ.อุดรธานี ครอบครัว สมรสกับคุณหญิงทัศนา บุนนาค (เดชกุญชร) มีบุตร 2 คน คือ ว่าที่ร้อยตรี ดร.สุทรรศน์ เดชกุญชร และร้อยตำรวจตรีหญิงปรีณาภา เดชกุญชร


ด้านการศึกษา
พล.ต.อ.วสิษฐ จบมัธยมศึกษา โรงเรียนประจำจังหวัดขอนแก่น “ขอนแก่นวิทยายน” ปี 2487, ปริญญาตรี รัฐศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับสอง) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปี 2497, ปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยนิวยอร์ค ปี 2497, ปริญญาเอก รัฐศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต (กิตติมศักดิ์) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปี 2539, แขนงพิเศษอื่นๆ ประกาศนียบัตร โรงเรียนตำรวจนครนิวยอร์ค (หลักสูตรสืบสวน) ปี 2496, ประกาศนียบัตร วิทยาลัยตำรวจแห่งชาติ F.B.I. สหรัฐอเมริกา ปี 2508 และวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ปี 2523

ด้านการทำงาน

เริ่มรับราชการในตำแหน่งอาจารย์ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งแต่ปี 2495 ต่อมา ได้ลาออกไปสมัครเข้ารับราชการในกรมประมวลราชการแผ่นดิน (ต่อมาคือกรมประมวลข่าวกลาง) แล้วโอนไปรับราชการที่กองตำรวจสันติบาล กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และย้ายไปเป็นนายตำรวจราชสำนักประจำ ในปี 2513 เคยได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2516 เป็นสมาชิกวุฒิสภา ในปี 2532 และในปี พ.ศ. 2539 - 2543 และเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลพลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นระยะเวลาสั้นๆ ตั้งแต่ 26 ส.ค. 2533 ถึง 9 ธ.ค. 2533 ตำแหน่งสุดท้ายในกรมตำรวจ ก่อนลาออกไปเป็นรัฐมนตรีเป็น รองอธิบดีกรมตำรวจ ฝ่ายกิจการพิเศษ

กระทั่ง ถึงแก่อนิจกรรมลงอย่างสงบ เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2561เวลาประมาณ 22.35 น.