Custom Search

Apr 21, 2009

โอบามาตัวดำ แต่เป็นทองของแท้



นิติภูมิ นวรัตน์
เปิดฟ้าส่องโลก
ไทยรัฐ
22/4/2552

ผู้อ่านท่านครับ คนเราเคารพและศรัทธากันด้วยผลงาน
ไม่ใช่ยังไม่ทันเห็นงานก็นึกชอบหรือไม่ชอบกันแล้ว
คนที่เป็นทองคำของแท้เท่านั้นที่จะสามารถยืนอยู่ในสังคมได้ยาวนานนับสิบปี
ส่วนทองของปลอม ขึ้นมาเพียงประเดี๋ยวประด๋าว
โดนใครเอาอะไรมาขีดข่วนก็ถลอกปอกเปิก บั้นปลายท้ายที่สุด ไม่มีที่ให้ยืนอยู่ในสังคม

ดูเหมือนว่าขณะนี้เริ่มมีการพบทองคำของแท้ขึ้นมาอีกแท่ง
ผมฟังจากผู้นำในทวีปอเมริกาพูดถึงโอบามา

หลังจากประชุมสุดยอดผู้นำประเทศในทวีปอเมริกา
ซึ่งจัดที่สาธารณรัฐตรินิแดดและโตเบโกเมื่อวันก่อน
ทุกคนสรุปตรงกันว่า ผู้นำโอบามาแห่งสหรัฐฯ
คือพระเอกของงานและเป็นทองคำของแท้ในแวดวงการเมืองโลก

ผู้อ่านท่านก็ทราบว่า ประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซ

ของสาธารณรัฐเวเนซุเอลาเป็นคนพูดจาโผงผาง
ไม่ให้เกียรติใครและมีทัศนคติไม่ดีต่ออเมริกา หลายคนคิดว่า
เมื่อเผชิญหน้ากัน ผู้นำเวเนซุเอลาก็คงจะพูดจาแซวโอบามา
พราะก่อนหน้านี้ก็มีการแซวผ่านสื่อไปหลายครั้ง แต่เมื่อเจอหน้ากัน
ชาเวซกลับพูดกับโอบามาว่า “ผมเคยจับมือกับบุชด้วยมือนี้เมื่อแปดปีที่แล้ว
แต่ผมต้องการเป็นเพื่อนกับคุณ”
ผู้นำที่ตกผลึกและผ่านร้อนหนาวมาอย่างโชกโชนต้องการบอกอะไรกับโอบามา

ถึงพูดจาประโยคนี้

อย่างแรกเลยก็คือ ต้องการบอกว่า ข้าเก๋า ข้าเป็นผู้นำเก่าแก่
โอบามาเอ็งน่ะเป็นผู้นำใหม่ ถึงแม้ว่าข้าจะเคยจับมือกับบุชมาก่อน
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ข้าจะชอบไอ้บุช

ข้ายังเคยด่าบุชมากมายก่ายกองหลายครั้งซะด้วยซ้ำ
ซึ่งผู้อ่านท่านคงเคยได้ยินนะครับ ว่าชาเวซด่าบุชว่า “ไอ้โง่”

และชาเวซไม่เคยแสดงความเคารพบุช

แต่ขณะที่จับมือกับโอบามา นักข่าวสรุปตรงกันว่านายชาเวซ

แสดงความเคารพต่อโอบามามาก
หลังจากพบกันแล้ว นายชาเวซยังได้ให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึก

เมื่อเจอโอบามาครั้งแรกด้วยประโยคบวก
ใครที่ตามชาเวซมายาวนานก็คงรู้สึกได้นะครับ

ว่ามนุษย์คนนี้ใครคิดยังไง
ก็พูดออกไปอย่างนั้น ไม่มีเสแสร้ง ไม่มีดัดจริต

ชาเวซให้สัมภาษณ์ว่า

“เราจับมือกันอย่างสุภาพ...ประธานาธิบดีโอบามาเป็นคนสุภาพ
แตกต่างจากไอ้คนก่อนหน้านี้”

ไอ้คนก่อนหน้านี้ที่ชาเวซพูดถึงก็คือ จอร์จ บุช
ซึ่งผู้คนทั้งโลกและแม้แต่คนอเมริกันเอง

ก็มีความเห็นพ้องต้องกันว่า
เป็นประธานาธิบดีห่วยแตก กักขละ พูดจาไม่รู้เรื่อง

และชอบก่อสงคราม

ผู้คนทั้งโลกชื่นชมสมใจโอบามา เพราะต่างได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับตัวของโอบามามามาก
ไม่ว่าจะเป็นชีวิตวัยเด็ก ชีวิตในอินโดนีเซีย ชีวิตการทำงาน

การมีพ่อขี้เมาหยำเปไม่รับผิดชอบ แม้แต่ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ น้องชายแท้ๆ
แต่ต่างแม่ของโอบามาถูกจับข้อหามั่วยาเสพติดในสลัมชานกรุงไนโรบี ฯลฯ
เรื่องเล่าอะไรพวกนี้ทำให้โอบามามีเสน่ห์ โอบามาขึ้นมาได้
ไม่ใช่เพราะมีชาติตระกูลสูงส่ง
ไม่ใช่เพราะเงิน หรือไม่ใช่เพราะมีผู้ใหญ่ให้การสนับสนุน
แต่ขึ้นมาด้วยความสามารถของตัวเอง

ทุกคนทราบและให้ความเคารพโอบามาตรงนี้
แม้แต่สมเด็จพระบรมราชินีนาถของอังกฤษก็ทรงให้เกียรติ
และทรงเมตตาเอ็นดูโอบามาและภริยาอย่างมากด้วยเช่นกัน
โอบามาได้เป็นประธานาธิบดีเพราะขาย “เรื่องเล่า” ของตัวเองหนังสือ Dreams from My Father “ฝันจากพ่อข้าพเจ้า” เป็นหนังสือขายดีของนิวยอร์คไทม์นานถึง ๑๔๒ สัปดาห์
และ The Audacity of Hope “ความอาจหาญต่อความหวัง”ก็ขายดีอยู่นานถึง ๖๗ สัปดาห์
ถึงขนาดเมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๐ โอบามายื่นรายงานแสดงภาษีว่าตนมีรายได้ถึง ๔.๒ ล้านดอลล่าร์
(๑๔๗ ล้านบาท) และ พ.ศ. ๒๕๕๑ มีรายได้ ๒.๖๕ ล้านดอลล่าร์ (๙๒ ล้านบาท)
ส่วนใหญ่ก็มาจากการขายลิขสิทธิ์เรื่องเล่านี่แหละ

๔ ปีที่แล้ว มีการประชุมซัมมิตอเมริกาที่อาร์เจนตินา ตอนนั้นบุชเป็นผู้นำสหรัฐฯ
ชาเวซคนเดียวกันนี้นี่แหละครับ ที่โจมตีนโยบายของอเมริกาซะเละตุ้มเป๊ะมาก่อน
แต่ในการประชุมซัมมิตอเมริกาที่ตรินิแดดและโตเบโกปีนี้
นายชาเวซกลับมอบหนังสือให้โอบามาชื่อ “The Open Veins of Latin America”
ซึ่งเป็นหนังสือที่เขียนโดยนักเขียนหัวเอียงซ้ายชาวอุรุกวัย
โอบามาก็สุภาพมาก รับหนังสือมาพร้อมรอยยิ้ม

และแล้ว คนที่โลกหวังว่าจะสร้างสันติสุข ก็อุบัติแล้ว เป็นคนผิวดำ
มีพ่อเป็นชาวเผ่าที่มาจากหุบเขาลำเนาไพรในเคนยา ผู้มีชื่อว่า “โอบามา” นี่เอง