Custom Search

Aug 12, 2020

12 สิงหาคม พ.ศ. 2563 วันแม่แห่งชาติ

ความสำคัญของวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม ของทุกปี

11 ส.ค. 2563 09:00 น.

วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคมของทุกปี เป็นวันสำคัญที่ลูกๆ จะได้แสดงความกตัญญูกตเวทีรำลึกถึงบุญคุณของมารดาผู้ให้กำเนิด โดยถือเป็นวันหยุดราชการให้ทุกคนได้ใช้เวลาร่วมกับครอบครัว
วันแม่ของแต่ละประเทศมีการจัดกิจกรรมไม่เหมือนกัน สำหรับประเทศไทยมีประวัติและความเป็นมาดังนี้

ประวัติวันแม่แห่งชาติ
วันแม่แห่งชาติเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของคนไทย เพราะเป็นวันเสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 โดยเริ่มกำหนดถือวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2519 เป็น “วันแม่แห่งชาติ” เป็นปีแรก ประเทศไทยมีประกาศจัดงานวันแม่แห่งชาติ เพื่อรำลึกถึงพระคุณของมารดา โดยปรับเปลี่ยนวันที่จัดงานมาหลายครั้ง ดังนี้
  • 10 มีนาคม พ.ศ. 2486 จัดงานที่สวนอัมพร โดยกระทรวงสาธารณสุข
  • 15 เมษายน พ.ศ. 2493 โดยกระทรวงวัฒนธรรม
  • 4 ตุลาคม พ.ศ. 2515 โดยสมาคมครูคาทอลิกแห่งประเทศไทย
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2519 เป็นต้นมา คณะกรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย
ในพระบรมราชูปถัมภ์ได้ประกาศใช้วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2519 เป็นวันแม่แห่งชาติ
ซึ่งเป็นวันเสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ดอกไม้สัญลักษณ์ประจำวันแม่ คือ “ดอกมะลิ”

“ดอกมะลิ” ถูกใช้เป็นดอกไม้สัญลักษณะประจำวันแม่ เพราะมีสีขาว และกลิ่นที่หอมได้นาน เปรียบได้กับความรักบริสุทธิ์ที่แม่มีต่อลูก และดอกมะลิเป็นดอกไม้ที่เรานำมาใช้ร้อยพวงมาลัยมอบให้กับคุณแม่ด้วย

คําขวัญวันแม่ 2563

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานคำขวัญวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2563 ความว่า

"รักเอยรักลูก แม่จึงปลูกคุณธรรมให้รักษา
รดความรักพรวนความดีมีเมตตา
ลูกเติบใหญ่แทนคุณค่าของแผ่นดิน”

กิจกรรมวันแม่แห่งชาติ

วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม ของทุกปี ลูกๆ จะได้แสดงความกตัญญูกตเวที ด้วยการนำดอกมะลิ มากราบขอพรจากคุณแม่ และมักอยู่ร่วมกันพร้อมหน้าพร้อมตาเพื่อรับประทานอาหารกับคุณแม่ นอกจากนี้สถานที่ราชการและเอกชนยังจัดตกแต่งประดับธงชาติ และพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และจัดนิทรรศการ รวมถึงกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์สาธารณะ อาทิ


  • จัดตั้งโต๊ะหมู่บูชาพร้อมเครื่องราชสักการะ และจัดที่สําหรับลงนามถวายพระพรชัยมงคล รวมทั้ง ประดับธงชาติไทยคู่กับธงอักษรพระนามาภิไธย ส.ก.
  • ประดับผ้าระบายสีฟ้าร่วมกับผ้าระบายสีขาวตามอาคาร สถานที่ของหน่วยงานและบ้านเรือน ตกแต่งซุ้มและประดับไฟตามสถานที่และถนนสายหลัก
  • จัดทํา คําถวายพระพรชัยมงคลบนหน้าหลักของเว็บไซต์ของหน่วยงาน
  • จัดสถานที่ลงนามถวายพระพรชัย ณ บริเวณศาลากลางจังหวัดที่เหมาะสมตามมาตรการ Social Distancing เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19


กระทรวงมหาดไทยได้ขอความร่วมมือให้ทุกจังหวัดดำเนินการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ
และเชิญชวนให้ทุกคนร่วมแต่งกายด้วยเสื้อสีฟ้า (ตามความสมัครใจ)
ตลอดเดือนสิงหาคม 2563 นี้ เพื่อแสดงความจงรักภักดีอย่างพร้อมเพียงกัน
ที่มา : สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, www.thaigov.go.th