Custom Search

Oct 20, 2019

ถอดคมคิดธุรกิจและการใช้ชีวิตของ “เจ้าสัวธนินท์” สู่ “ความสำเร็จ ดีใจได้วันเดียว” หนังสือที่เจ้าสัวใช้เวลาเขียนถึง 8 ปี #6

                                          

1) http://teetwo.blogspot.com/2019/10/8.html
2) https://teetwo.blogspot.com/2019/10/8-2.html
3) https://teetwo.blogspot.com/2019/10/8-3.html
4) https://teetwo.blogspot.com/2019/10/8-4.html
5) https://teetwo.blogspot.com/2019/10/8-5.html


ถอดคมคิดธุรกิจและการใช้ชีวิตของ “เจ้าสัวธนินท์” สู่ “ความสำเร็จ ดีใจได้วันเดียว” หนังสือที่เจ้าสัวใช้เวลาเขียนถึง 8 ปี
10 ตุลาคม 2019 เขียนโดย Workpoint News




หนังสือจะหมดไป”

ความสำเร็จ ดีใจได้วันเดียว: ความล้มเหลว

ก็เสียใจได้วันเดียวเช่นกัน

ในช่วงท้ายของงาน คุณสุทธิชัย หยุ่น

ซึ่งเป็นนักข่าวคนเดียวที่เคยได้สัมภาษณ์เจ้าสัวธนินท์ออกทางทีวี เมื่อประมาณ 30 ปีก่อน
ได้ร่วมปันประสบการณ์ที่เคยได้พบและพูดคุยกับเจ้าสัวธนินท์ว่า…

“ผมรู้จักคุณธนินท์ครั้งแรก แกพาผมไปเล้าหมู

เชื่อไหมครับว่าเจอครั้งแรกนี่ก็คือนวัตกรรม
คุณธนินท์เอาขี้หมูมาทำเป็นไบโอแก๊ส…

ครั้งแรกที่ผมขอสัมภาษณ์คุณธนินท์ ยากลำบากมาก

เพราะคุณธนินท์ไม่ยอมออกทีวี
ปฏิเสธมาตลอด ผมต้องตื๊อแล้วตื๊ออีก
ผมคุยกับคุณธนินท์ตอนก่อนสัมภาษณ์
รู้เลยว่าสิ่งที่คุณธนินท์คิด วางแผน และมอง
มันไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจ มันเป็นเรื่องวิสัยทัศน์สำหรับทั้งประเทศ

ผมบอกคุณธนินท์ว่าอยากให้คนไทยได้ฟัง 

แล้วผมจะเล่าสิ่งที่น้อยคนจะรู้ สิ่งสำคัญระดับสากล
คุณธนินท์ได้มองไปข้างนอก

มองอย่าง Global entrepreneur

มองอย่างผู้ประกอบการระดับโลก ความจริงใจ ความทุ่มเท
ความเสี่ยงที่คุณธนินท์ว่านี่ ไม่ใช่ความเสี่ยงเฉพาะเรื่องกำไร
ขาดทุน ความเสี่ยงเรื่องการเมือง
ความเสี่ยงเรื่องความมั่นคง ปี 1989
เกิดเหตุการณ์เทียนอันเหมิน ที่เมืองจีน เติ้งเสี่ยวผิง
บริษัทฝรั่งที่ตอนนั้นไปอยู่ในจีนทั้งหมดเลย เรียกว่า 90%
ถอยหมดเลย

ผมจำได้ว่าคุณธนินท์และเพื่อนผมที่อยู่ในจีนก็เล่าให้ฟัง

บอกว่า คุณธนินท์ประชุมแล้วบอกว่าเราต้องอยู่
เพราะธุรกิจมันไม่สำคัญเท่ากับใจ
ที่เราบอกเจ้าของบ้านว่า เวลาคุณลำบากที่สุด เราอยู่กับคุณ
นั่นเป็นสิ่งที่ผมเชื่อว่า มันไม่อยู่ในตำราไหน…

คุณธนินท์ตัดสินว่า ซีพีต้องอยู่ เขายิ่งลำบาก เรายิ่งต้องอยู่

ผมเชื่อว่าเรื่องนี้แหละที่ชนะใจผู้นำจีนจนถึงทุกวันนี้

เขาถึงมองว่าซีพีนั้นไม่ได้เป็นเพียงธุรกิจ

แต่เป็นเพื่อนเป็นมิตรช่วงหลังนี้ผมก็ได้รับทราบว่า
ซีพีไปรัสเซีย ไปอินเดียไปตะวันออกกลาง
ไปอีกหลายประเทศที่ไปสร้างพื้นฐานทางด้านการเกษตร
ทางธุรกิจอื่นๆ ที่เกิดขึ้นมา
ฉะนั้นตรงนี้ที่สำคัญผมคิดว่าคือใจ ต้องใจถึงจริงๆ…
ความสำเร็จของคุณธนินท์ ไม่ใช่แค่มองเห็นโอกาส
รู้ว่าอะไรกำไร ขาดทุน รู้ว่าควรเสี่ยง 30% 70%
แต่อยู่ที่ลึกๆ แล้วคือใจ ใจของความเป็นนักเลง
รู้ว่าอะไรคือเนื้อหาของการทำธุรกิจให้สำเร็จ” 
ก่อนจะทิ้งท้ายถามเจ้าสัวธนินท์ว่า

“ถ้าความสำเร็จดีใจได้วันเดียว ความล้มเหลวเสียใจได้กี่วัน”

และคำตอบของเจ้าสัวธนินท์ก็คือ
ทั้งความสำเร็จและความล้มเหลว
ให้เวลากับมันวันเดียวก็พอ “เราต้องทำใจ ต้องรู้แพ้รู้ชนะ
เราตั้งใจว่าเราสำเร็จเนี่ยดีใจได้วันเดียว
ล้มเหลวก็เหมือนกัน เพราะมันล้มเหลวไปแล้ว
จะไปกลุ้มใจก็ไม่มีประโยชน์
แต่ต้องไปทบทวนว่าทำไมเราถึงล้มเหลว ให้เป็นบทเรียน
เพราะมันไม่มีใครหรอกที่ทำสำเร็จได้ทุกเรื่อง
ทำมากเรื่องก็ต้องมีผิดพลาดบ้าง ในโลกนี้
นอกจากเป็นเทวดา หรือไม่ทำก็ไม่ผิด
ตอนที่สำเร็จเราก็ต้องทำใจ ว่าถ้าวันนึงล้มเหลว
แต่อย่าให้ล้มละลายก็แล้วกัน อย่าตาย
ถ้ายังมีชีวิตอยู่
บริษัทที่ขาดทุนไปก็ยังมีโอกาสเอากลับมา
เป็นบทเรียน ล้มเหลว เพื่อจะได้ไม่ล้มเหลวอีก”