Custom Search

Aug 15, 2023

ไม่มีใครหรืออะไรหรอกที่สมบูรณ์แบบ #มาตาลดา


เข็นเด็กขึ้นภูเขา


วันนี้ในละครมาตาลดา คนดูได้เห็นชีวิตในอดีตของ ‘บุญฤทธิ์’ พ่อของ ‘เป็นหนึ่ง’ และคงเข้าใจมากขึ้นว่า เพราะอะไรบุญฤทธิ์จึงได้มาเป็นอย่างที่เขาเป็น กลายเป็นพ่อที่เข้มงวดอย่างมากกับลูกชายในทุกวันนี้

บุญฤทธิ์เป็นเด็กกำพร้าที่โตมาในวัด ชีวิตไม่ได้รับโอกาสเหมือนเด็กทั่วไป แม้จะเรียนเก่งแต่ขาดทุนทรัพย์ ทำให้ถูกเพื่อนชวนไปมีส่วนร่วมในการหาเงินในทางที่ผิด จนเพื่อนถูกจับ แต่ว่าบุญฤทธิ์รอดพ้นมาได้ ในที่สุดก็สอบชิงทุนจนได้มาเรียนในกรุงเทพ และประสบความสำเร็จในการทำงาน

เมื่อมามีลูกชาย เขาจึงเป็นพ่อที่บังคับกดดันลูกเรื่องการเรียน ต้องเรียนเก่งและขีดเส้นชีวิตให้ลูกเป็นแพทย์ เพราะคิดว่าชีวิตที่สมบูรณ์แบบ การเรียนดีเลิศ มีอาชีพที่ดีเลิศ จะสร้างความสุขให้กับลูกได้ เขาไม่อยากให้ลูกมีชีวิตที่ไม่มีความสุขแบบที่เขาเติบโตมา

แต่ผลที่ได้กลายเป็นว่า เป็นหนึ่งลูกชายของเขากลับไม่มีความสุขนัก มีความอึดอัดกดดัน และไม่กล้าที่จะทำอะไรหลายๆ อย่าง เพราะมีความเปราะบางในใจ

หมอเคยคุยกับเด็กหลายคนที่มีความทุกข์ง่าย จากความรู้สึกกลัว ที่จะไม่ดีพอ กลัวจะไม่สมบูรณ์แบบพอ ทำให้กลายเป็นหลีกเลี่ยง ไม่กล้าที่จะทำในสิ่งที่ไม่มั่นใจ ทำให้อาจเสียโอกาสหลายๆ อย่างในชีวิต เป็นความเปราะทางในจิตใจ

ในความเป็นจริง มนุษย์ทุกคนไม่ว่าจะเป็นใคร มีความสามารถโดดเด่นแค่ไหน ล้วนแล้วแต่ไม่มีทางที่จะสมบูรณ์แบบทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์

อุปสรรคที่เข้ามาในชีวิต ทำให้เราต้องต่อสู้ ฝ่าฟัน ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงของชีวิต จึงเป็นเรื่องธรรมดา

ความผิดพลาดหรือความไม่สมบูรณ์แบบเล็กๆ น้อยๆ เป็นสิ่งจำเป็นในแบบฝึกหัดชีวิตของคนๆหนึ่ง ถ้าเราพร้อมยอมรับในข้อบกพร่อง ความไม่สมบูรณ์แบบของเราได้ เราจะกล้าพอที่จะทำและเอาชนะความกลัว ความเปราะบางในใจ สามารถก้าวต่อไปได้บนเส้นทางเดินของชีวิต

สำหรับพ่อแม่ บางครั้งด้วยความรักลูก ทำให้เกิดความคาดหวังมาก อยากให้ลูกทำสิ่งต่างๆ ให้ดี ไม่ผิดพลาด จนการกระทำและคำพูดทำให้ลูกรู้สึกกดดัน ว่าตัวเองจะไม่ได้รับการยอมรับถ้าทำได้ไม่ดี หรือผิดพลาด จนอาจกลายเป็นตัวตนของเขาเองที่ยึดถือความสมบูรณ์แบบ และไม่มีความสุขในระยะยาว

สิ่งที่พ่อแม่จะช่วยให้ลูกๆ เข้าใจในเรื่องนี้ คือการ ทำใจเป็นกลาง ที่สำคัญต้องยอมรับความเป็นตัวตนของลูก

แม้ว่าลูกอาจจะเลือก หรือทำอะไรผิดพลาด อาจไม่ดีเลิศในความคิดพ่อแม่ แต่พ่อแม่ควรทำความเข้าใจและยอมรับ ตรงนั้นทำให้ลูกเข้าใจว่า เขาก็มีคุณค่าพอที่จะได้รับความรัก เติบโตและอยู่ร่วมกับคนอื่นๆ ได้อย่างภาคภูมิใจ

และไม่ต้องรู้สึกอับอายในความผิดพลาดหรือความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเอง

ที่สำคัญพ่อแม่เองก็ต้องทำเป็นตัวอย่างให้ลูกเห็น บอกตัวเองว่า แม้เราจะผิดพลาดไปบ้าง อาจล้มเหลวในวันนี้ แต่ไม่ได้หมายถึงเราต้องพังทลายไปตลอด เราทำไม่ได้เรี่องในวันนี้ แต่พรุ่งนี้เราทำใหม่ได้ มองทุกอย่างที่เกิดเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ทำให้เราได้เรียนรู้

เรื่องของความสำเร็จ และความผิดพลาด เป็นเรื่องธรรมชาติและธรรมดาของชีวิตมนุษย์ที่ต้องพบเจอ

ในวันที่ไม่สมบูรณ์แบบ ผิดพลาดและพ่ายแพ้ .. มันไม่ใช่ The end of the world แน่นอน

ไม่ว่าจะเป็น บุญฤทธิ์ นิด เป็นหนึ่ง มาตาลดา หรือใครๆ .. รวมถึง ‘ตัวเราเอง’

หมายเหตุ: ในการเขียนบทความนี้ หมอไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ จากบริษัทหรือผู้เกี่ยวข้องกับละคร เพียงแต่ได้รับชมและประทับใจ จึงขอเขียนแบ่งปันข้อคิดที่ได้สู่ผู้อ่านค่ะ

#หมอมินบานเย็น