Custom Search

Dec 7, 2020

7 ธันวาคม พ.ศ. 2563

 พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ


ภาพพระสาทิสลักษณ์ จาก สำนักข่าวเจ้าพระยา

พระประวัติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุธนารีนาถ มีพระนามเดิมคือ
หม่อมหลวงโสมสวลี กิติยากร ประสูติเมื่อวันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม 2500
ณ โรงพยาบาลกายส์ เขตเซาท์วาร์ก กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
เป็นธิดาคนโตของหม่อมราชวงศ์อดุลกิติ์ กิติยากร
พระเชษฐาในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
กับท่านผู้หญิงพันธุ์สวลี กิติยากร (พระนามเดิม: หม่อมเจ้าพันธุ์สวลี ยุคล)
เหตุที่ประสูติในลอนดอนสืบเนื่องมาจากพระบิดา คือ หม่อมราชวงศ์อดุลกิติ์
ได้ไปศึกษากฎหมายในอังกฤษหลังพระราชทานน้ำสังข์แล้ว
จนเมื่อพระองค์มีพระชันษาได้ 2 ปี จึงได้กลับมายังประเทศไทย

พระนาม โสมสวลี อันหมายความว่า “น้ำผึ้งพระจันทร์”
นั้นเป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานมาจาก
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
เข้าใจว่าคงจะนำมาจากสร้อยพระนามขอ
 พระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์
กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา
ครอบครัวและพระสหายในโรงเรียนราชินีมักเรียกสั้น ๆ ว่า “คุณโสม”
ส่วนพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
(เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระยรมโอรสาธิราชฯ)
ทรงเรียกว่า “โสม” เฉยๆ มีพระขนิษฐาเพียงคนเดียวคือ หม่อมหลวงสราลี กิติยากร
หรือ “คุณน้ำผึ้ง” ซึ่งเป็นนักแสดงและพิธีกร

หม่อมหลวงโสมสวลี กิติยากร ได้รับโปรดเกล้าฯ
ให้เข้าศึกษาในระดับอนุบาลที่โรงเรียนจิตรลดา รุ่นที่ 5
เมื่อปี 2504 รุ่นเดียวกับสมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระเจ้าน้องนางเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
กรมพระศรีสวางควัฒน์ วรขัตติยราชนารี
แต่เมื่อสำเร็จการศึกษาในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

หม่อมราชวงศ์อดุลกิติ์ ย้ายไปเป็นผู้พิพากษาศาลจังหวัดเชียงใหม่ ในปี 2510
พระองค์ก็ทรงลาออกจากโรงเรียนเดิมและย้ายไปประทับที่เชียงใหม่โดยเข้าเรียน ที่โรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย
เป็นเวลา 2 ปี และเมื่อบิดาได้ย้ายกลับมายังกรุงเทพมหานคร
ทรงเข้าศึกษาในโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยระยะหนึ่ง แต่ด้วยมิสะดวกต่อการรับส่ง

จึงได้ย้ายมาศึกษาอยู่ที่โรงเรียนราชินี เนื่องจากเป็นเส้นทางเดียวกับเส้นทางที่ไปยังที่ทำงานของบิดา



พระกรณียกิจ
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุธนารีนาถ ทรงบำเพ็ญพระกรณียกิจด้านต่างๆ
แบ่งเบาพระราชภาระ สมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี
สิริกิจกาลินี พีรยะพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยะชาติ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ
เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน์ วรขัติยราชนารี
และสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี
ในการเสด็จแทนพระองค์ไปทรงประกอบพระกรณียกิจต่างๆ
จนลุล่วงด้วยดี สมกับที่ทรงวางพระราชหฤทัยตลอดมา



“ภา..ไม่รู้จะเอาหัวพี่ดี้ไปทำอะไร...”
ครั้งหนึ่ง...นานมากแล้ว...
ฉันเคยมีวาสนาได้ร่วมโต๊ะเสวยกับองค์ภาฯ
เนื่องในวันเกิดของพระสหายท่านหนึ่งซึ่งก็บังเอิญเป็นเพื่อนกับฉันด้วย..
เพื่อนแกล้งฉันจัดที่นั่งให้ฉันนั่งติดกับองค์ภาฯ...
ฉันกราบพระบาทครั้งหนึ่งจึงนั่งเก้าอี้...
กับข้าวไทยๆ บนโต๊ะ หน้าตาน่าอร่อยมาก...
แต่เป็นมื้อที่ไม่อร่อยเลย...แม่ประไพ...
เอ้า...ทรงขยับจานกับข้าวมาให้ฉันตัก...
เอ้า...ทรงตักกับข้าวใส่จานให้ฉันอีก...
ฉันก็ตักข้าวใส่ปาก...แต่เป็นเพราะทำอย่างอื่นไม่ได้มากกว่านั้น...
“พี่ดี้...ไม่ต้องเกร็งนะ เกร็งหรือเปล่า..”. เพื่อนที่นั่งตรงข้ามโต๊ะถามยิ้มๆ
.....
.....
“เอิ่ม...ก็ไม่ได้เกร็ง...แต่ว่า...ถ้าเป็นสมัยโบราณ...
มาทำตัวตีเสมอเจ้าแบบนี้...เป็นโดนตัดหัวแน่นอน...”.
ฉันก็ตอบแก้เก้อไป
มีเสียงสรวลคิกๆ...
“ภา..ไม่รู้จะเอาหัวพี่ดี้ไปทำอะไร...”