2 งานศิลป์แห่งแรงศรัทธาฝีแปรงของอาจารย์และลูกศิษย์สาวไฮโซฯ

ศิลปินฝีมือเยี่ยมผู้ถ่อมตัว อ.ศุภกิจ อุตตรนคร สั่งสม ประสบการณ์สร้างงานศิลปะ
และงานออกแบบโครงสร้างบ้านมาหลายสิบปี โคจรมาพบกับศิลปินสาวไฮโซฯ
"เสาวนีย์ เตชะไพบูลย์"หนึ่งในลูกศิษย์คนโปรดของเขา
โชว์ผลงานภาพวาดศิลปะแนวพุทธศิลป์
ในงาน "ธรรมศิลป์นานาชาติ" เมื่อเร็วๆ นี้

ทั้ง คู่นำความเลื่อมใสในพระ พุทธศาสนา และวัตถุมงคลอันสูงค่าด้วยแรงศรัทธา
มา เป็นแรงบันดาลใจในการถ่ายทอดผ่านงานศิลปะในแนวที่ถนัด โดยอ.ศุภกิจ
เลือก ที่จะตวัดฝีแปรงวาดภาพพระเครื่อง โดยเฉพาะพระสมเด็จฯ วัดระฆัง
ขณะที่ เสาวนีย์ วาดภาพองค์จตุคามรามเทพ ที่กำลังโด่งดังไปด้วยกระแสศรัทธาในขณะนี้

องค์จตุคามรามเทพ คือสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้ เสาวนีย์ เตชะไพบูลย์
สร้างสรรค์งานอัน ท้าทายกับภาพวาดที่ทรงอิทธิฤทธิ์ตามคำบอกเล่าจากใครหลายๆ คน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเรื่องปฏิหารย์จาก ตัวผู้วาดเอง
"ภาพนี้ให้ชื่อ ว่า จตุคามรามเทพจอมราชันย์แห่งทะเลใต้
เพราะ ท่านมีชื่อเสียงโด่งดังมาจากทางใต้ นับถือและบูชาจตุคามฯ มานาน
แต่พอมี ความนิยมมากขึ้นก็สะสมมาเรื่อยๆ ที่เขียนลงบนกระดาษใบใหญ่
เพราะจตุคามฯ จะมีพลังแผ่ออกไป ในขั้นตอนของการวาดรูปก็ยังต้องจุดธูป 9 ดอก
เพื่อ บอกกล่าวท่านก่อน บอกว่าถ้าหากท่านอยากให้ภาพออกมาหน้าไหนก็ให้มานิมิตร
เหมือน กับท่านมาอยู่ในรูปที่เราวาดจริงๆ
ให้คนที่นับถือพยายามสร้างผลงานออกมา ให้ดีให้ได้

พอ วาดไปจนถึงขั้น ตอนการลงหน้านั้น ภาพสีหน้าที่ออกมาเราวาดได้เองโดยที่ไม่ต้องแก้ไข หน้าตาเข้มดุ มีพลัง ฉากหลังใช้สีแดงเพราะสื่อถึงความมีพลังที่เปล่งออกมา ทั้งหมดใช้เวลา 3 อาทิตย์ จนถึงวันนี้มีผู้มาขอซื้อหลายรายก็ไม่ขาย เพราะเราวาดเอง และเชื่อว่าท่านอยู่กับเรา เราศรัทธาในตัวท่าน ท่านก็จะให้คุณแก่เรา โดยที่เราก็ต้องทำความดีด้วย ถึงใครมีไว้ครอบครองแต่ทำแต่ความชั่ว จิตใจไม่ดี ท่านก็จะไม่มีทางให้คุณคนผิด"










วิเชียร-เสาวนีย์ เตชะไพบูลย์
นอกจากจะดูแลธุรกิจส่วนตัวแล้ว เสาวนีย์ เตชะไพบูลย์
ยังมีตำแหน่งอันทรงเกียรติ เป็นผู้พิพากษาสมทบ
ที่ศาล เยาวชนและครอบครัว สมัยที่ 5 เป็นเวลาเกือบ 14 ปีมาแล้ว
เธอบอกว่า เป็นความภาคภูมิใจอีกอย่างหนึ่งที่ได้ช่วยเหลือสังคม
โดยเฉพาะเด็กๆ และเยาวชนที่หลงผิดไปกับยาเสพติด
รวมทั้งเด็กที่มีปัญหาคอรบคัว ไม่มีที่พึ่ง

ส่วนเวลาว่างของเธอ ก็หนีไม่พ้นเรื่องการวาดรูป
ที่ยังต้องศึกษาเทคนิคต่างๆ จากอาจารย์หลายๆ ท่าน
เพื่อให้เกิดความชำนาญมากขึ้น

"ก็มีที่เขียนเก็บๆ ไว้บ้าง แต่ไม่ได้คิดว่าจะขาย แค่คนเห็นผลงานของเราแล้วชื่นชมเราก็ดีใจ เป็นความสุขของคนที่ชอบวาดรูป แต่ภาพจตุคามฯ เป็นภาพที่ภูมิใจมาก เราเรียนรู้เทคนิคที่ไม่เคยรู้จากอาจารย์ศุภกิจ อุตตรนคร ท่านวาดรูปเก่งและมีเทคนิคดีๆ ที่หายาก เราต้องเรียนรู้อีกมาก เราเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นานนัก แต่ด้วยความที่มีใจรักในงานศิลปะ และยังความชอบสะสมพระเครื่องเหมือนกัน"

ส่วนถนนสายพู่กันของ อาจารย์ศุภกิจ อุตตรนคร ที่กว่าจะมาเป็นอาจารย์สอนงานศิลปะให้กับใคร
หลายๆ คนนั้น เขาได้ผ่านประสบการณ์ร้อนหนาวมาตั้งแต่เริ่มรู้ตัวว่าอยากเป็นศิลปิน

"ผมอยากไปเรียนเมืองนอกอย่างพวกรุ่นพี่เขา ให้รุ่นพี่ติดต่อโรงเรียนให้ที่แฟรงค์เฟิร์ต ด้าน Visual Art และก็ Computer Graphic ไปแต่ตัว แต่ไม่มีเงินเรียน เราไม่ใช่คนรวยที่อยู่ๆ อยากไปเรียนก็ได้เรียน ต้องวาดรูปหาเงินส่งตัวเองเรียน"

กับผลงาน ภาพวาดพระเครื่อง ที่อาจารย์ศุภกิจ อุตตรนคร บอกว่า อยากวาดภาพที่ยังไม่มีคนวาด อันเนื่องมาจากความชอบส่วนตัวในเรื่องพระเครื่อง จึงนำผลงานมาร่วมแสดงในงานธรรมศิลป์นานาชาติ ฉลองเทศกาลวันวิสาขบูชาโลก ถึง 5 ภาพ ในชื่อภาพกำลังแผ่นดิน, ปิดทองหลังพระ, พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่, พระสมเด็จวัดระฆัง และ เกิด แก่ เจ็บ ตาย

"การ วาดรูปพระเครื่องมีความละเอียดอ่อนมากกว่าการวาดรูปธรรมชาติ หรือตามสิ่งที่ออกมาจากจินตนาการ เพราะต้องศึกษาลงลึกถึงรายละเอียดของตัวพระเครื่อง อย่างเช่น เนื้อผง ลายเส้น หากผิดเพี้ยนเพียงเล็กน้อยก็จะไม่ใช่ต้นแบบที่แท้จริง

อยาก จะสื่อให้เห็นถึงการสืบทอดความคิดความเชื่อในอีกแง่หนึ่งของพระพุทธศาสนาว่า คนไทยยังมีความเลื่อมใสเชื่อถือศรัทธาเครื่องรางของขลัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจอย่างหนึ่ง เช่น ภาพปิดทองหลังพระ ในหลวงท่านเคยกล่าวไว้ว่า การทำดีไม่จำเป็นต้องมีใครเห็น นั่นหมายความว่า เราก็ต้องคิดดี ทำดีด้วยตัวของเราเอง"

อ.ศุภกิจ ทิ้งท้ายว่า เขากำลังรวบรวมผลงาน มาจัดแสดงและจำหน่ายหารายได้ให้กับศิลปินอาวุโสที่เจ็บป่วย

"บางคนก็ไม่มีสตางค์ เป็นสิ่งที่เราสามารถทำอะไรที่เป็นประโยชน์ให้กับคนอื่นได้ เผื่อแผ่กันเหมือนแม่น้ำหลายๆ สายมาบรรจบกัน มันก็จะแรงขึ้น"

2 คน กับ 2 ความต่างที่ลงตัวเป็นหนึ่งเดียว ในงานศิลป์แห่งแรงศรัทธา ระหว่างอาจารย์ศุภกิจ อุตตรนคร และลูกศิษย์ผู้รักงานศิลป์อย่าง เสาวนีย์ เตชะไพบูลย์ ทำให้การสร้างสรรค์งานศิลป์ของทั้งคู่ เป็นเสมือนการสร้างกำแพงแห่งความดี ที่น่าชื่นชมยิ่ง
http://www.naewna.com/news.asp?ID=65703