มติชน
นิ้วกลม วันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
รัก เหมือนฤดูหนาว เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว จางหายไปโดยไม่รู้ตัว / รักเหมือนดอกไม้ ดูแลอย่างดี แต่บางที ไม่มีดอก / รักเป็นปริศนา เราไม่รู้หรอกว่าเขารักเราไหม คำพูด-หลายครั้งก็ไม่ตรงกับความรู้สึก / บอกว่ารัก แต่อันที่จริงไม่ บอกว่าไม่ แต่อันที่จริงรัก ก็มีถมเถไป / รักเป็นเรื่องชั่วคราว เหมือนน้ำค้างตอนเช้า ดวงดาวตอนกลางคืน ใครพยายามฝืนให้รักเป็นสิ่งถาวร อาจได้รับความทุกข์ถาวรมาเป็นสิ่งตอบแทน / ถ้าพล็อตกราฟ กราฟของความรักคงมีลักษณะขึ้น-ลง มิใช่คงที่ / สิ่งที่ทำให้กราฟความรักดิ่งลงอาจจะเป็นความชินชา และสิ่งที่ทำให้กราฟพุ่งขึ้นมาอาจจะเป็นความผูกพัน / อ้อมกอดของความรักใหม่ให้ความรู้สึกต่างไปจากอ้อมกอดจากความรักที่รู้จักกัน มานาน / อย่างแรกตื่นเต้น คึกคัก บางครั้งเร่าร้อน รุนแรง อย่างหลัง อบอุ่น สงบ และรู้สึกเหมือนได้กลับบ้าน / ความผูกพันคือความรักหรือไม่ ใครจะไปรู้ แต่ถ้าดูดีๆ ในความผูกพันมักมีความรักซ่อนอยู่ในนั้นเสมอ
รักคือกาว ที่ยึดเหนี่ยวความสัมพันธ์ของคนสองคนเอาไว้จนกระทั่งผูกพันกัน คุณภาพของกาวย่อมมีผลต่อความเหนียวแน่น นานวันไปกาวอาจจะหมดอายุ แต่บางคู่ก็ติดทน มิใช่เพราะกาวของพวกเขาไม่หมดอายุ ทว่าพวกเขาหมั่นหยอดกาวของความรักลงไปในช่องว่างของความสัมพันธ์อย่างสม่ำ เสมอ
ความผูกพันย่อมต่างจากการพันผูก ผูกพันเกิดจากคนสองคน พันผูกเกิดจากคนหนึ่งคนที่พยายามพันและผูกอีกฝ่ายหนึ่งไว้ ทั้งที่เขาอาจไม่อยากอยู่ใกล้อีกต่อไปแล้ว / ความรักไม่ได้จบด้วยการอยู่ด้วยกัน จูงมือกันเข้าสู่ประตูวิวาห์เหมือนในละครตอนอวสานเสมอไป รักในระยะไกลก็มีหลายคนสมัครใจที่จะทำ ส่วนจะทำไปได้นานแค่ไหน ไม่มีใครรู้ / และการเข้าสู่ประตูวิวาห์ก็ใช่ว่าจะสวยงามเหมือนอย่างในละคร / การแต่งงานอาจเป็นการยืนยันความรัก แต่การพิสูจน์ความรักเริ่มขึ้นหลังจากวันนั้น / เส้นทางความรักที่ถูกสร้างขึ้นจากวัฒนธรรมผัวเดียวเมียเดียวของมนุษย์ก็ คล้ายการเลือกทางเดินหนึ่งเส้นบนหลายทางแยก ไม่มีใครรู้หรอกว่า ถ้าเราเลือกเดินไปอีกเส้นทาง ชีวิตจะต่างไปอย่างไร / คำตอบถูกแขวนไว้ในจินตนาการ / การแต่งงานของบางคนอาจทำให้อีกคนหนึ่งใจหาย เหมือนคนที่เคยใกล้ชิดหายตัวไปจากโลกหนึ่งคน เพราะรู้ดีว่าเราเข้าใกล้กันเหมือนเดิมไม่ได้อีกต่อไปแล้ว / บางครั้งยังอดสงสัยไม่ได้ ในทุกหนึ่งงานแต่งงานจะมีคนร้องไห้เสียใจกับการแต่งงานของคนสองคนนั้นทุก ครั้งไหมนะ / รักจึงไม่ได้มอบความสุขให้กับผู้ที่มีมันเสมอไป บางครั้งมันก็หยิบยื่นความเศร้าใจให้เช่นกัน / บางทีความรักที่เรามีนั้นแทบไม่มีความหมาย ถ้าอีกฝ่ายไม่รับรู้การมีอยู่ของมัน / แย่กว่านั้นคือไม่เห็นค่า / ความเศร้าอาจจะเกิดจากการที่เรามีความรัก ที่เราพยายามฟูกฟักความหมายและคุณค่า แต่มันไร้ค่าในสายตาของคนที่เรานำไปมอบให้ / นั่นย่อมทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองไร้คุณค่าไปด้วย / เวลารักใครสักคน เรามักเผลอเอาคุณค่าของตัวเองไปผูกไว้กับการให้ค่าจากคนคนนั้น / เขาสำคัญสำหรับเราจนเราลืมความสำคัญของตัวเองไปชั่วขณะ / พูดแบบธรรมะ อาจเรียกได้ว่า อวิชชา หรือว่าความไม่รู้
แต่เวลามีความรักบางครั้งสติสตังก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
ความ รักเต็มไปด้วยความรู้สึก ที่ยังมิได้นึกหรือคิด / มิได้นึกหวนทวนอดีตที่เจ็บปวด มิได้คิดถึงอนาคตว่าจะดีร้ายอย่างไร / รักด้วยสติ พูดง่ายแต่ทำยาก / บางครั้งยังอดคิดไม่ได้ว่า รักที่มีสติอาจไม่ใช่ความรักบริสุทธิ์ / มันผ่านกระบวนการกลั่นกรองมาเป็นอย่างดี มีส่วนผสมของเหตุผลมากกว่าอารมณ์ ซึ่งอาจจะมีเป็นผลดีต่อการดำเนินชีวิต และการสงบจิตสงบใจ / จึงเคยเขียนไว้ใส่สมุดบันทึก สติอยู่ที่ไหน ความรักไม่อยู่ที่นั่น / หรือถ้ามีมันก็เป็นรักอีกแบบ รักที่คิดมาดีแล้ว ไตร่ตรองมาดีแล้ว อาจมิใช่ความรักแบบหนุ่มสาว ทว่าเป็นความรักที่กินอาณาบริเวณกว้างกว่านั้น รักผู้อื่น รักเพื่อนร่วมโลก รักสรรพสัตว์ รักสิ่งแวดล้อม รักโลกที่เราอาศัย / ซึ่งดูคล้ายกับว่า รักแบบนี้ไม่มีพิษมีภัย เพราะเราไม่ได้ต้องการให้สัตว์โลกทั้งหลายวิ่งเข้ามาโอบกอดเรา (โดยเฉพาะพวกเสือ หมี หรืองูเหลือม) เราแค่มีเมตตากรุณาต่อมัน อยากเห็นมันมีชีวิตที่ดี มีความสุข ไม่ตัดป่ามากเกินไป ไม่ทำร้ายโลกมากไปกว่านี้ / แต่ทำไมเราจึงรักคนที่เรารักไม่ได้แบบเดียวกับที่รักหมีขาว เพนกวิน และแมวน้ำบ้างล่ะ / หรือความรักคือการครอบครอง? / ปฏิเสธไม่ได้ว่า บางครั้งเราก็สับสนระหว่างสองความรู้สึก อยากให้เขามีความสุขกับอยากให้เรามีความสุข / เรา-หมายถึงตัวเราเอง / และการที่เราจะมีความสุขได้ก็ต้องได้อยู่ข้างๆ เขา ได้เป็นแฟนกัน ได้ทำอะไรร่วมกันอีกหลายอย่าง (ตามแต่ที่คุณผู้อ่านจะคิด)
แต่บางที มันก็เป็นทางคนละเส้น ทางที่เขามีความสุขอาจไม่มีเราอยู่บนเส้นทางนั้น มุมหนึ่งเราก็น่าจะดีใจที่เห็นเขามีความสุข แต่ทุกข์เกิดจากเขาดันไปมีความสุขกับอีกคนหนึ่งซึ่งไม่ใช่เรา
รัก ต้องครอบครองอย่างนั้นหรือ ผมว่าไม่ใช่ แต่รักต้องประคับประคอง รักต้องแลกเปลี่ยน ถ่ายเทความรู้สึกกันไปมา / คล้ายๆ ทฤษฎีสีชมพูที่คนใกล้ตัวของผมค้นพบ / เธอบอกว่า คนสองคนก่อนจะรักกันนั้นอาจแตกต่างกันอยู่พอสมควร เหมือนสีคนละสี แต่พอเริ่มรู้จักกัน พูดคุยกัน อีกฝ่ายก็จะแนะนำโลกของตัวเองให้อีกฝ่ายรู้จัก ค่อยๆ เปิดประตูให้เขาเข้ามาดูโลกของเรา ขณะเดียวกันเราก็เข้าไปสู่โลกของเขาเช่นกัน สิ่งที่เราเคยชอบทำ ชอบกิน สถานที่ที่เราชอบไป เขาก็จะค่อยๆ ทำ กิน ไปด้วยกันกับเรา เช่นกันกับที่เราก็ค่อยๆ ทำ กิน ไป ในสิ่งที่เขาชอบ พอรู้ตัวอีกที เราก็กลายเป็นสีเดียวกันไปแล้ว / สีที่เกิดจากการผสมของสองสีเข้าด้วยกัน เมื่อนั้นมันจะไม่ใช่สีเดิมอีกต่อไป ไม่ใช่สีของเธอ ไม่ใช่สีของฉัน แต่มันจะเป็น "สีของเรา" / วันนั้นความรักจะเกิดขึ้น วันที่ฉันกับเธอค่อยๆ จางหาย กลายเป็น "เรา" / รักที่สมบูรณ์จึงต้องการคนที่เรารัก / เพื่อหยิบยื่นความรักสลับกันไปมา / ในนิยามนี้รักจึงคล้ายการตีปิงปอง ที่เราต้องตีโต้กันจึงสนุก / ตีปิงปองคนเดียวย่อมเปลี่ยวเหงา และยิ่งเป็นไปไม่ได้ ถ้าเราจะตีปิงปองและตามัวแต่ไปมองคนที่ตีอยู่อีกโต๊ะหนึ่ง / รักข้างเดียวมีจริง แต่ไม่แน่ใจว่าจะเป็นรักที่มีความสุข / แต่แน่ละ ใครจะไปห้ามได้ ตราบที่ยังไม่เจอใครที่จะมีความสำคัญ-ตัวใหญ่จนบดบังใครคนเดิม / รักต้องการการประคับประคองเป็นอย่างดี ใช่ว่าเรารักกันแล้วเราจะรักใครไม่ได้อีก ความรู้สึกแบบนั้นย่อมเกิดขึ้นเป็นธรรมชาติ / คู่รักมิใช่คนที่เกิดมาเพื่อเป็นคู่กัน / คู่รักเป็นแค่คนที่เดินมาเจอกันก่อนที่ทั้งคู่จะเดินไปเจอคนอื่นเท่านั้นเอง / และทั้งคู่ก็ยังเดินไปเจอคนใหม่ๆ ที่มีคุณสมบัติ "ความน่าจะรัก" อยู่ตลอดเวลา / ความสัมพันธ์ครั้งใหม่เริ่มต้นขึ้นได้เสมอ ไม่เว้นแม้แต่คนที่มีคู่รักอยู่แล้ว / อะไรที่ทำให้เราสานสัมพันธ์กับความรักครั้งใหม่ อะไรที่ทำให้เราหยุดมันไว้ ไม่สานต่อ / เป็นไปได้ไหมว่า สิ่งนั้นก็คือความรักนั่นเอง / แต่เป็นความรักอีกความหมายหนึ่ง / คือรักคนรักของเรามากจนไม่อยากเสียเขาไป เพราะรู้ดีว่า ถ้าความสัมพันธ์ครั้งใหม่ทำให้ความรักที่มีอยู่แตกร้าว เราย่อมเสียใจอย่างหนักที่ไม่สามารถรักษาคนที่เรารักเอาไว้ได้ / หรืออาจจะเป็นอีกหนึ่งความรู้สึก อีกมุมของความรัก / คือไม่อยากให้คนที่เรารักต้องเสียใจ ถ้าความสัมพันธ์ครั้งใหม่ต้องทำให้เธอเสียใจ บางคนจึงเลือกที่จะหยุดไว้ดีกว่า / ความรักทำนองนี้อาจใกล้เคียงกับการรักอย่างมีสติ แต่เป็นอีกมุมหนึ่ง / เป็นรักที่ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่ความสุขของตัวเองเป็นใหญ่ / การกลัวคนที่เรารักต้องเสียใจ นับเป็นความรักที่ละเอียดขึ้นอีกขั้น / ซึ่งถ้าจะว่ากันลึกๆ เมื่อคนที่เรารักเสียใจ เราเองก็ย่อมเสียใจเช่นกัน ในเมื่อระหว่างเรามีเส้นด้ายแห่งความรู้สึกที่โยงใยไว้ด้วยกันแล้ว / คนหนึ่งเสียใจ อีกคนย่อมเสียใจไปด้วย / หากคู่รักคู่ไหนไม่รู้สึกอะไรกับความเสียใจของคนรักของตัวเองเลย เส้นด้ายที่ว่าอาจจะขาดวิ่นไปแล้วก็เป็นได้
ส่วนความรู้สึกแรก ไม่อยากเสียเขาไป นับเป็นความรู้สึกสำคัญของความรัก
เมื่อ เรารักใครสักคน สิ่งที่เรากังวลที่สุดคือการจากลา / การไม่ได้พบหน้ากันอีก ไม่ได้โอบกอดกันเหมือนเดิม ไม่ได้สัมผัสกันเหมือนเคย / เพราะเขาคนนั้นใช้เวลาอยู่กับเรามาเนิ่นนาน กระทั่งกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต / การจากไปของเขา ย่อมนำพาเอาส่วนหนึ่งของชีวิตของเราหายไปด้วย / เมื่อคนที่เรารักจากไป เราจะรู้สึกว่าชีวิตขาดหายไปส่วนหนึ่ง / ไม่สมบูรณ์เหมือนเคย / เสียงที่เคยได้ยิน รอยยิ้มที่เคยเห็น มือที่เคยสัมผัส ความอบอุ่นจากอ้อมกอด หายไปพร้อมกับใครคนนั้น / ยิ่งรู้สึกมากขึ้นเมื่อไปเยือนยังสถานที่ที่เคยไปด้วยกัน ฟังเพลงที่เคยฟังด้วยกัน หรือเมื่อพบวัตถุทรงจำอะไรบางอย่างที่ทำให้เรานึกถึงเขา / ความรักเพิ่มพูนบางสิ่งบางอย่างให้เรา ทว่ามันก็นำพาสิ่งเหล่านั้นกลับไปพร้อมกับคนที่นำมันมา / ไม่ช้าก็เร็ว / ธรรมชาติของความรักเป็นเรื่องชั่วคราว แต่ในบางกรณี รักก็ข้ามพ้นธรรมชาติข้อนี้ไปได้ / สิ่งที่เหลืออยู่อาจมิใช่ร่างกายที่ยืนอยู่ข้างๆ ทว่าคือความรู้สึกดีๆ ในใจ / คนรักมิได้อยู่ข้ายกายอีกต่อไป แต่ความรักยังอยู่ที่เดิม-ในใจ ในความทรงจำ / สิ่งดีๆ ที่เคยมีร่วมกันก้าวข้ามกฏอนิจจังของวัตถุสิ่งของได้ / บางคนเก็บรักษาความรักเอาไว้กับตัว และปล่อยให้มันหมดอายุลงพร้อมๆ กับอายุขัยของเขา / ไม่มีใครเข้าใจความรักหรอก ถ้ามีใครสักคนบอกว่าเขาเข้าใจความรัก นั่นยิ่งแปลว่าเขาไม่เข้าใจอะไรเกี่ยวกับมันเลย / ธรรมชาติของความรักซับซ้อนมากกว่าที่จะเรียบง่าย / สับสนมากกว่าที่จะแจ่มชัด / บางครั้งความสวยงามของความรักก็อยู่ตรงที่มันมีลักษณะที่พร่าเลือนนี้เอง / เราไม่เคยเข้าใจว่า เพราะอะไรเราจึงรู้สึกว่าดอกไม้สวยงาม แต่สิ่งที่เราต้องการอาจไม่ใช่เหตุผลว่าเพราะอะไรดอกไม้จึงสวย เราต้องการดอกไม้ต่างหาก / บางคนอาจเฝ้าถามถึงนิยามของความรัก ในขณะที่อีกคนลงมือรัก และใช้เวลากับมัน / แน่นอน ย่อมมีทั้งสุขและเศร้า / รักไม่เคยมอบให้แต่ความสุขเพียงอย่างเดียว / เพราะรักไม่ใช่ของใครคนหนึ่ง มันต้องการคนสองคนเสมอ / เมื่อมีอีกคนหนึ่ง จึงยากจะคาดหวังให้รักเป็นไปดั่งใจเรา / กระนั้นรักก็ไม่เคยมอบให้แต่ความทุกข์เพียงอย่างเดียวเช่นกัน / ในท่ามกลางความทุกข์นั้น เราต่างรู้ดีว่าอย่างน้อยก็มีความสุขอยู่ในนั้น / อย่างน้อยที่สุด เวลาได้รักใครสักคนเราย่อมมีความสุข /
สุขที่ได้รู้จักความรัก
ถือ โอกาสวันวาเลนไทน์มานั่งถามหาความหมายของความรักกับตัวเองดูเล่นๆ หากคุณผู้อ่านคนไหนมีนิยามความรักที่น่าสนุก น่าสนใจ หวานซึ้ง โรแมนติก ตลกขับขัน แล้วอยากแบ่งปันสู่กันฟัง ส่งเข้ามาได้ที่ roundfinger@gmail.com นะครับ ผมจะคัดเลือกชิ้นที่ชอบนำมาตีพิมพ์ในมติชนสุดสัปดาห์ และแจกหนังสือให้อ่านเล่นคนละเล่มครับ ^ ^ (อย่าลืมแนบที่อยู่มาในอีเมลด้วยนะครับ)