Custom Search

Feb 13, 2011

รัก


ฟาสต์ฟู้ด ธุรกิจ

หนุ่มเมืองจันท์

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

www.facebook.com/boycitychanFC


ผมมีหนังสือเล่มใหม่แล้วครับ

เพิ่งออกเมื่อเดือนมกราคม

หนังสือเล่มนี้ไม่ได้วางขาย แต่แจกฟรีครับ

และแจกฟรีเฉพาะคนที่ไปร่วมงานแต่งงานของ "อิ่ม-ป๊อบ"

ทั้ง 2 คนไปเรียนหลักสูตร ARM รุ่นที่ 7 ของ "เซเว่น อีเลฟเว่น" รุ่นเดียวกับผม

นั่นคือ เหตุผลที่ทำให้เรารู้จักกัน

วันหนึ่ง "อิ่ม" เดินมาบอกผมว่าคุณแม่ของเธอชอบอ่านหนังสือชุด "ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ"

ผมก็ฝากหนังสือให้คุณแม่และอิ่ม

ฝากหนังสือไป 2-3 เล่ม

สัปดาห์ต่อมาก็ได้น้ำพริกหนุ่มและอาหารเหนือยี่ห้อ "วนัสนันท์" มากล่องใหญ่

ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก

คุณพ่อ-คุณแม่ของ "อิ่ม" เป็นเจ้าของแบรนด์ "วนัสนันท์" ครับ

เป็นสินค้าประจำจังหวัดเชียงใหม่ที่โด่งดังมาก

จากนั้นไม่นาน "อิ่ม" กับ "ป๊อบ" ก็บอกว่าทั้งคู่ขี้เกียจนอนคนเดียวแล้ว

และอยากได้หนังสือ "ความสุข ณ จุดที่ยืนอยู่" ของผมเป็นของชำร่วยในงานแต่งงาน

ฟังแล้วปลื้มครับ

เพราะถือว่า "อิ่ม" และ "ป๊อบ" ให้เกียรติมาก

คิดดูสิครับ ในงานสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของคน 2 คน

หนังสือของผมได้เป็น "ของที่ระลึก" ในงาน

แค่คิดก็เท่แล้ว

ตอนแรกน้องทั้ง 2 คนจะขอซื้อ

แต่ด้วยความรักน้อง และเห็นว่าทั้ง 2 คนฐานะไม่ดีนัก

เพราะ กิจการ "เชียงใหม่วนัสนันท์" ที่ขายพวกกระเทียมดอง-อาหารเหนือของ "อิ่ม" และ "นีโอเดคคอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล" ขายพื้นไม้สำเร็จรูปของ "ป๊อบ"

เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับ "แอปเปิ้ล" ของ "สตีฟ จ็อบส์" หรือ "ไมโครซอฟต์" ของ "บิล เกตส์"

กิจการของทั้งคู่ถือว่าเล็กมากกก...

น่าสงสารจริงๆ



ผมบอก "อิ่ม" กับ "ป๊อป" ว่าให้เลือกเรื่องที่ชอบในหนังสือทั้ง 16 เล่มของผม ไปพิมพ์ใหม่ดีกว่า

จัดทำรูปเล่มใหม่ให้เป็นของที่ระลึกสำหรับงานนี้

ชอบเรื่องไหน เลือกไปเลย

ค่าลิขสิทธิ์ไม่ต้อง

ขี้เกียจรีดเลือดกับ "ปู" ครับ

แสดง น้ำใจไปแล้วนึกว่าเรื่องจะจบ "อิ่ม-ป๊อบ"กลับบอกว่าพี่ต้องเขียนคำนำให้ ไม่เช่นนั้นคนอื่นจะคิดว่าแอบเอาเรื่องของผมมาพิมพ์โดยไม่บอกกล่าว

เอาล่ะสิ กลายเป็นปัญหาใหญ่ของผมขึ้นมา

เขียนเรื่องธุรกิจ หรือเรื่องไร้สาระนั้นไม่ใช่เรื่องยาก

แต่เขียนเรื่อง "ความรัก"

มันยากนะครับ

ประสบการณ์ก็ต่ำมาก จะถาม "อมร" ก็กลัวจะนอกเรื่องนอกราว

คิดอยู่เกือบ 1 เดือน

สุดท้ายก็นึกออก

ผมใช้หลักการแก้ปัญหาแบบเดิมครับ

ถ้าหา "ทางออก" ไม่เจอ

ให้เราออกที่ "ทางเข้า"



"หนังสือเล่มนี้เกิดขึ้นจากอะไร"

คำตอบแรก คือ ARM 7

ถ้าไม่ได้เจอกันในโครงการนี้ ทั้งคู่ก็คงไม่นำเรื่องของผมมาเป็น "ของที่ระลึก" แจกในงานแต่งงาน

แต่อีกคำตอบหนึ่งที่สำคัญกว่า

หนังสือเล่มนี้เกิดขึ้นจาก "ความรัก" ครับ

เพราะมี "ความรัก" ของ "อิ่ม" และ "ป๊อบ"

หนังสือเล่มนี้จึงเกิดขึ้น

...ความรัก

...รัก

เมื่อจะเขียนเรื่อง "ความรัก"

แทนที่จะเสียเวลาคิดว่าจะเขียนเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับ "ความรัก"

เราก็ย้อนกลับไปทีจุดตั้งต้นเลย

"รัก"

เคยสงสัยไหมครับว่า "ความรู้สึก" ที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า "LOVE"

ทำไมภาษาไทยจึงบัญญัติศัพท์คำว่า "รัก" มารองรับ

ทำไมต้องใช้คำว่า "รัก" ไม่ใช้คำอื่น

ไม่ใช้คำว่า "กุ๊กกุ๋ย" หรือ "ชิมิ"

ฉันกุ๊กกุ๋ยเธอ

ฉันชิมิเธอ

แต่กลับใช้คำว่า "ฉันรักเธอ"

มันต้องมีเหตุผลสิครับ

ผมสงสัยมานาน และเพิ่งคิดออกเมื่อไม่กี่วันนี้

"รัก" มีตัวอักษรอยู่ 2 ตัวครับ

คือ ร.เรือ และ ก.ไก่

การเลือกใช้ตัวอักษร 2 ตัวนี้ต้องมี "ความหมาย"

นี่คือ ปริศนาที่ซ่อนมานานหลายร้อยปีที่ผมเพิ่งค้นพบ

รู้ไหมครับว่า "ร-ก" ย่อมาจากอะไร

นั่งลงครับ ถ้าเป็นแฟนกันก็กุมมือกันแล้วฟังดีๆ

"ร" นั้นย่อมาจากคำว่า "เรา" ครับ

"ก" ย่อมาจาก "กู"

ตัวกู-ของกู

"ความรัก" เป็นเรื่องคน 2 คน

คนอื่นไม่เกี่ยว

ชีวิตคู่ คือ การผสาน "ร" และ "ก" เข้าด้วยกัน

เมื่อคน 2 คนตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน

เหมือนกับว่าต่อไปนี้จะไม่มี "ฉัน" ไม่มี "เธอ"

มีแต่ "เรา"

แต่ในความเป็น "เรา" ทั้ง 2 คนก็ยังต้องมีความเป็นตัวตนของตนเองอยู่ด้วย

ฉัน ยังต้องเป็น ฉัน

เธอ ยังต้องเป็น เธอ

การหาค่ากลางระหว่าง "เรา" และ "ตัวตน" ของแต่ละคน เพื่อให้ชีวิตคู่ดำเนินไปอย่างราบรื่นและมีความสุข

เป็นศิลปะแห่งความรัก

และนั่นคือ เหตุผลที่ "ร" และ "ก" ต้องมี "ไม้หันอากาศ" อยู่ด้านบน

ดูดีๆ สิครับ "ไม้หันอากาศ" บนตัว "ร" ปลายหางมันตวัดลง

เป็นรูป"หัวใจ"

ความรักไม่ใช่เรื่องของ "เหตุผล"

แต่เป็นเรื่อง "ความรู้สึก"

เราถามทุกสิ่งด้วย "เหตุผล" ได้

แต่สำหรับ "ความรัก"

เราต้องถามด้วย "หัวใจ"

และตอบด้วย "หัวใจ"?

ผมตบท้ายคำนำชิ้นนี้ด้วยคำอวยพร

...ขอให้ "อิ่ม-ป๊อป" มีความสุขทุกวันคืน

มีความสุขกับชีวิตใหม่

กับความเป็น "เรา" ที่มี "ฉัน" และ "เธอ" เล่นซ่อนแอบกันอยู่

...ใต้ร่มเงาของ "หัวใจ" ...



ในหนังสือเล่มนี้ ผมบอกน้องทั้ง 2 คนว่ามีสิ่งหนึ่งที่ผมลืมบอกไป

คือ ที่บอกว่า "ค่าลิขสิทธิ์" ของเรื่องในหนังสือ ไม่คิด

ยังยืนยันเหมือนเดิม

แต่ "คำนำ" ชิ้นนี้ผมเขียนขึ้นมาใหม่

ต้องมี "ค่าเรื่อง"

ไม่เช่นนั้น เสียชื่อ "นักเขียนมืออาชีพ"

ไม่ต้องจ่ายเป็นเงิน

แค่ขอให้ "อิ่ม" ส่งสินค้าของ "วนัสนันท์" ไปให้ชิมตลอดชีวิต

และ "ป๊อบ" ส่งไม้ไปให้สร้างบ้านหลังใหม่เท่านั้นก็พอแล้ว

เป็นคนไม่โลภมากครับ