Custom Search

Jan 6, 2008

เมตตาภาวนา

คอลัมน์ รื่นร่มรมเยศ
เสฐียรพงษ์ วรรณปก
มติชน
30 ธันวาคม พ.ศ. 2550
ปีที่ 30 ฉบับที่ 10886

ผมให้การบ้านแก่ลูกศิษย์ ซึ่งเป็นอาจารย์สอนอยู่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ให้ช่วยแต่งกาพย์ กลอน โคลงฉันท์ ตามถนัด เกี่ยวกับเมตตาภาวนา ตามความใน "กรณียเมตตสูตร" ให้หน่อย อยากจะเอามาใส่ทำนองทำเป็นเพลงสวด เพราะได้ฟังบทแผ่เมตตาอย่างพิสดาร ที่บริษัทฮ่องกงหรือไต้หวันจำไม่ได้ ซึ่งคุณอนุรุธ ว่องวานิช ส่งมาให้ ฟังแล้วไพเราะจัง เสียงอ่านภาษาบาลี แปร่งๆ แบบฝรั่ง ให้อารมณ์อีกแบบหนึ่ง ต่างจากเสียงสวดที่เราเคยชิน

ลูกศิษย์เธอแฟ็กซ์มาให้สองสำนวน เลยเลือกไม่ถูกว่าจะเอาสำนวนไหน นำมาลงให้แฟนๆ อ่านก่อน บรรยากาศการเมืองเช่นปัจจุบันนี้ ไม่มีอะไรจะเหมาะเท่าสวดเมตตาภาวนา
ไม่ว่าพรรคไหนจะได้เป็นรัฐบาล ก็ควรแก่การแผ่เมตตาให้ทั้งนั้นแหละครับ ไม่มีข้อยกเว้น ดังคำขอของโยม ในเรื่องข้างท้ายนี้

โยมคนหนึ่ง นิมนต์พระนิกายเทนได (เทียนไท้) ไปสวดมนต์ทำบุญอุทิศแก่ภรรยาผู้จากไป พอพระสวดจบ แกก็เรียนถามว่า

"หลวงพ่อครับ เมียผมจะได้ส่วนบุญจากการสวดมนต์ครั้งนี้ไหมครับ"

"ได้สิ โยม ไม่เฉพาะเมียของโยมเท่านั้น สัตว์โลกทั้งหมดก็จะได้มีส่วนแห่งบุญจากการสวดมนต์แผ่เมตตาให้ครั้งนี้ด้วย"

"ถ้าสัตว์ทั้งโลกได้ส่วนบุญด้วย ก็แย่งส่วนที่เมียผมจะพึงได้สิครับ ขอหลวงพ่อสวดให้เมียผมคนเดียวไม่ได้หรือ" นายคนนี้แกรักเมียน่าอิจฉาจริงๆ

หลวงพ่อตอบว่า พระพุทธเจ้าสอนว่า เวลาทำบุญทำทาน ต้องตั้งใจอุทิศผลบุญแก่สรรพสัตว์ทุกถ้วนหน้า โดยไม่ยกเว้น

"สอนเช่นนี้ก็ดีอยู่" เขาสรุป "แต่ถึงอย่างไรก็ขอยกเว้นบ้างเถอะ ขอรับ ผมมีเพื่อนบ้านคนหนึ่ง มันเลวระยำมาก ชาติหน้าฉันใด ผมไม่อยากพบหน้ามันอีก โปรดอย่ารวมมันกับสัตว์โลกทั้งหมดเลย ไม่ได้หรือครับท่าน"

ทำนองกับเขากำลังฟอร์มรัฐบาลกันฝุ่นตลบนั่นแหละครับ เขาจะเอาใครเป็นนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีกระทรวงไหน ก็ต้องทำใจ แผ่เมตตาอย่างเดียว จะภาวนาในใจว่า เจ้าประคู้ณ อย่าให้พรรคนี้ คนนี้มาเป็น กระทรวงนั้นกระทรวงนี้ ไม่ได้ดอกครับ

ทำได้อย่างเดียว แผ่เมตตาครับ แม้ว่าถนนหนทางจะมีรอยขูดรอยขีดเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ เพราะเขี้ยวสิงสาราสัตว์ ซึ่งลากไปมามากมาย ก็ต้องทำใจ

เมตตาภาวนาสำนวนที่ 1
ขอตั้งปฏิญญา ต่อพระรัตนตรัยอ่อนโยนวาจาใจ
ไม่เย่อหยิ่งหยาบยโสเดินทางสายแห่งธรรม
สงบนำน้อมมโนร่มเย็นใต้ร่มโพธิ์
แผ้วถางทางพระนิพพานประพฤติพุทธพจน์
จิตกำหนอชนะมารเนื้อนาบุญบันดาล
เจิดจรัสประภัสสรแล้วแผ่เมตตาจิต
ทุกชีวิตเอื้ออาทรสัตว์โลกที่เดือดร้อนไฟนรกจงเย็นลง
กลุ่มสัตว์เกิดจากไข่ หรือเกิดได้เป็น
ตัวคงใหญ่เล็กกว่าเศษผง
ทุกกลุ่มจงมีสุขเทอญเหล่าเทพยดา
โอปะปาติกะเหินต่างภพต่างด้าวเดิน
จงสุขกายสบายใจขอพรมน้ำเมตตา
ดุจมหาชลาศัยดับมอดทุกดวงไฟ กาม โกรธขึ้ง ถึงแค้นเคือง
สรรพสัตว์จงสิ้นโศก โลกทั้งโลกจงรุ่งเรืองประทีปธรรมประเทือง
ส่องสว่างกระจ่างฟ้ากุศลธรรมล้ำเลิศ
จักก่อเกิดด้วยเมตตาสู่แสงแห่งปัญญา
ไตรสิกขาจึงพร้อมมูลมีศีล สมาธิ ละทิฐิ
เกิดเกื้อกูลสงบเย็นจึงเพิ่มพูน
จิตเปี่ยมสุขทุกนาที
"เมตตาค้ำจุนโลก"
ไฟทุกข์โศกจะไม่มีโลกา-อเวจี- สวรรค์-พรหม จักร่มเย็น

เมตตาภาวนาสำนวนที่ 2
เมตตาธรรมล้ำเลิศ สุดประเสริฐ ณ สงสารวัฏฏะอภิบาล
ดิเรกรุ่งมโนรมย์ขอส่ำสัตว์สร้างสุข
ละวางทุกข์ที่จ่อมจมหาญกล้าตรงคนคม
ไม่เย่อหยิ่ง,สันโดษ,ดีวิญญูชนแซ่ซ้อง
เกียรติเกริกก้องเป็นศักดิ์ศรีรู้สิ่งอันพึงมี
ด้วยปัญญาสมาทานหมู่สัตว์วิบัติโลก
จักเกิดโศกตลอดกาลเคืองแค้นทรมาน
จิตมุ่งร้ายให้หน่ายชังพึงแผ่เมตตาจิต
เนืองนิมิตอนิจจังทุกสิ่งไม่เที่ยงดัง
พุทธพจน์บทปรัชญาไม่มีตัวเรา-เขา
มีแต่เงาภาพมายาตั้งจิตคิดเมตตา
ทุกสัตว์ทั่วจักรวาลจิตจะประภัสสร
ดับสิ่งร้อนอนันต์กาลใสเย็นเห็นนิพพาน
สะอาดสว่างเห็นทางธรรมจิตนิ่งอหิงสา
มีเมตตามาน้อมนำหยุดกามและหยุดกรรม
แผ้วถางทางพระนิพพานเมตตาธรรมค้ำจุนโลก
ทางดับโศกวัฏสงสารชำระจิตวิญญาณ
ด้วยพระธรรมน้อมนำเทอญ
"นภาจริ นำเบญจพล"