Custom Search

Aug 19, 2025

World Humanitarian Day 2025

 f      UNICEF Malawi

Today is World Humanitarian Day — a moment to recognize those who
step up when the world is at its most vulnerable.
Under this year’s theme, “Strengthening Global Solidarity
and Empowering Local Communities,”
we’re reminded that when natural disasters and climate change
shatter lives, someone must help rebuild them
— especially for children.
Today, we honor the #HumanitarianHeroes who
work tirelessly to protect, support, and uplift our communities.
Know someone making a difference? 👇

Aug 16, 2025

โรคหลงลืม

f       Loy Chunpongtong

สรุป #โรคหลงลืม จากงานวิจัยล่าสุด โรค #อัลไซเมอร์ คือ #เบาหวานประเภท3 คือ #ภาวะดื้ออินซูลินในสมอง

กลไกโรคอัลไซเมอร์และสมองเสื่อมหลายชนิดเชื่อมโยงกับ "พลังงานสมองขาดหาย" จาก #ภาวะดื้ออินซูลิน การแก้ไขต้องโฟกัสที่ ควบคุมระดับอินซูลิน ผ่านการปรับอาหารและการใช้ชีวิต ซึ่งไม่เพียงช่วยสมอง แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมและอายุยืนยาวด้วย ต่อไปคือรายละเอียด
ฝรั่งมักอ้วนก่อนเป็นเบาหวาน แต่คนไทย/เอเซียอาจเป็นเบาหวานก่อนอ้วนก็ได้ครับ
อัลไซเมอร์กับทฤษฎีแผ่นพลัค (Plaque Theory) ที่ล้มเหลว
- ทฤษฎีเดิม: เชื่อว่าอัลไซเมอร์เกิดจากแผ่นพลัค (โปรตีนสะสมในสมอง) กีดขวางการสื่อสารระหว่างเซลล์ประสาท
- หลักฐานหักล้าง:
- ยาลดแผ่นพลัค ไม่ช่วยฟื้นฟูการรู้คิดแม้แผ่นพลัคจะลดลง
- การชันสูตรศพพบว่าคน ไม่มีอาการอัลไซเมอร์ก็มีแผ่นพลัค ในสมองได้
- งานวิจัยต้นตำรับที่สนับสนุนทฤษฎีนี้ถูกเปิดโปงว่า "ปลอมแปลงข้อมูล" 👉 ทฤษฎีนี้จึงไม่น่าเชื่อถือ
อัลไซเมอร์ = "ภาวะดื้ออินซูลินในสมอง"
- เบาหวานชนิดที่ 3?: ผู้เชี่ยวชาญไม่ชอบคำนี้เพราะทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นโรคเบาหวานรูปแบบใหม่ 💡 จริงๆ คือ "สมองดื้ออินซูลิน"
- กลไกสำคัญ:
- สมองเป็นอวัยวะที่ใช้พลังงานสูงมาก ต้องการ กลูโคสหรือคีโตน เป็นเชื้อเพลิงหลัก
- เมื่อสมองดื้ออินซูลิน ➔ อินซูลินไม่สามารถ "เปิดประตู" นำกลูโคสเข้าเซลล์สมองได้
- ผลลัพธ์: สมอง ขาดพลังงาน แม้ระดับน้ำตาลในเลือดจะสูง (เหมือนในเบาหวานชนิดที่ 2)
- หากร่างกายไม่ผลิตคีโตนเพียงพอ (เพราะกินบ่อย/อินซูลินสูง) ➔ สมองไม่มีพลังงานสำรอง 👉 การรู้คิดลดลง
หลักฐานชัดเจน: ดื้ออินซูลิน vs อัลไซเมอร์
- ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ 40-80% มีภาวะดื้ออินซูลินหรือเบาหวานชนิดที่ 2 (ตัวเลขต่างกันเพราะวิธีวัดต่างกัน)
- เทคนิค PET Scan พบว่า สมองผู้ป่วยอัลไซเมอร์มีการใช้กลูโคสลดลง (Brain Glucose Hypometabolism)
- ไม่ใช่แค่อัลไซเมอร์: โรคทางระบบประสาทอื่นๆ เช่น ซึมเศร้า, ไมเกรน, ลมชัก, พาร์กินสัน ก็พบภาวะเดียวกันนี้ 👉 ล้วนเชื่อมโยงกับ ดื้ออินซูลิน
ปัญหาวิกฤต: เราไม่ตรวจวัดอินซูลิน!
- การตรวจแค่น้ำตาลในเลือด ไม่เพียงพอ ➜ หลายคนดื้ออินซูลินแต่ น้ำตาลปกติ
- ค่าอินซูลินที่ควรเฝ้าระวัง:
- หน่วยสหรัฐฯ: > 10 µU/mL
- หน่วยสากล: > 40 pmol/L
- กลุ่มเสี่ยงแม้รูปร่างผอม: คนเอเชียตะวันออก, ผู้หญิงวัยรุ่นที่มี PCOS
ความแตกต่างทางชาติพันธุ์กับความอ้วน
- ทฤษฎี Personal Fat Threshold: ร่างกายแต่ละคน (ขึ้นกับชาติพันธุ์+เพศ) มีจุดจำกัดในการเก็บไขมันได้โดยไม่เกิดโรค
- ไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous): เก็บได้มากกว่า, อันตรายน้อยกว่า
- ไขมันในช่องท้อง (Visceral): เก็บได้จำกัด, ไปกดอวัยวะภายใน, กระตุ้นดื้ออินซูลินรุนแรง
- กลุ่มเสี่ยงสูง: ชาวเอเชียตะวันออก/ลาติน มีแนวโน้มสะสมไขมันในช่องท้องมาก ➜ เสี่ยงแม้น้ำหนักไม่มาก
ทางออก: ควบคุมอินซูลิน = ป้องกันสมองเสื่อม
- ลดอินซูลิน = กระตุ้น Autophagy (กระบวนการซ่อมแซมเซลล์) ที่เชื่อมโยงกับ อายุยืน
- วิธีมีประสิทธิภาพ:
- การกินแบบคีโตเจนิก: ผลิตคีโตนเป็นพลังงานสมอง แม้ไม่ต้องอดอาหาร
- การอดเป็นช่วง (Fasting): ลดอินซูลิน กระตุ้น Autophagy
- งานวิจัย: สัตว์ที่กินคีโตเจนิก มีอายุยืนกว่า กินอาหารคาร์บสูง แม้ได้รับแคลอรีเท่ากัน
- ปัจจุบัน ไทยมีผู้ป่วยสมองเสื่อม 2.6 แสนคน (2025)คิดเป็น 4% ของวัย 80+
- คาดการณ์ 2050: พุ่งถึง 4 - 5 แสนคน
- จำไว้ ดื้ออินซูลิน อายุสมองสั้นลง

ลอย ชุนพงษ์ทอง เรียบเรียง 16 สิงหาคม 2025

Aug 12, 2025

วันแม่แห่งชาติ (Mother's Day) ตรงกับวันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี

เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม พ.ศ. 2568

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

Aug 1, 2025

๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๘

 f        บางอารมณ์

แม้ร่างกายจะหยุดทำงานโดยรวมไปแล้ว เซลล์บางส่วนยังคงมี "การทำงานของยีน" อยู่ต่อไป

f เรื่องลึกลับแปลกประหลาดจากทั่วโลก

เมื่อคนเราหยุดหายใจ หลายคนอาจนึกว่า "ชีวิตสิ้นสุดลงแล้ว" แต่ในความเป็นจริง ความตายไม่ได้เกิดขึ้นทันที แต่เป็นกระบวนการค่อย ๆ ดับลงของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย และบางส่วนยังคงทำงานต่อไปได้อีกระยะหนึ่ง

สิ่งแรกที่หยุดทำงานคือ สมองและเซลล์ประสาท ซึ่งต้องการออกซิเจนอย่างต่อเนื่อง เมื่อไม่มีอากาศเข้า สมองจะเริ่มตายภายใน 4-6 นาที ถือเป็น "จุดเริ่มต้นของความตาย" อย่างแท้จริง
หลังจากนั้น หัวใจจะหยุดเต้น และอวัยวะสำคัญต่าง ๆ อย่างตับ ไต ตับอ่อน จะค่อย ๆ ล้มเหลวตามมา
แต่อวัยวะบางส่วน เช่น ผิวหนัง เส้นเอ็น กระจกตา ยังคงสภาพอยู่ได้หลายชั่วโมงหรือเป็นวัน ส่วนเซลล์เม็ดเลือดขาว ก็อาจอยู่รอดได้นานถึง 3 วัน และยังสามารถนำมาใช้ในการปลูกถ่ายได้ หากได้รับการเก็บรักษาอย่างเหมาะ
และเรื่องที่น่าทึ่งที่สุดก็คือ...
นักวิทยาศาสตร์พบว่า แม้ร่างกายจะหยุดทำงานโดยรวมไปแล้ว เซลล์บางส่วนยังคงมี "การทำงานของยีน" อยู่ต่อไป เช่น กระบวนการถอดรหัส DNA เพื่อสร้าง RNA แม้เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง
พูดง่าย ๆ คือ เซลล์กำลังคัดลอก "คำสั่งใช้งาน" จาก DNA ออกมา เพื่อเตรียมผลิตโปรตีนต่าง ๆ แม้ว่าระบบหลักของร่างกายจะหยุดไปแล้ว ราวกับว่านี่คือความพยายามเฮือกสุดท้ายของเซลล์ที่ยัง "ดิ้นรน" เพื่อปรับตัวหรือซ่อมแซมในวินาทีท้าย ๆ ของชีวิต
นักวิจัยเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า "Twilight of Death" หรือ "ยามอัสดงแห่งความตาย" ซึ่งกำลังได้รับความสนใจอย่างจริงจัง เพราะอาจเชื่อมโยงกับหลายคำถามที่ยังไม่มีคำตอบ เช่น
- กิจกรรมของเซลล์หลังความตายนี้จะส่งผลอย่างไรต่อการปลูกถ่ายอวัยวะ?
- ทำไมผู้รับอวัยวะบางรายจึงมีความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งสูงขึ้น?
นักวิทยาศาสตร์ตั้งข้อสงสัยว่า การแสดงออกของยีนหลังความตาย อาจทำให้เซลล์เกิด "ความสับสน" และกลายพันธุ์ผิดปกติ ซึ่งอาจส่งผลต่ออวัยวะที่ถูกนำไปใช้ แม้ตอนนี้ยังไม่มีคำตอบแน่ชัด แต่นี่คือประเด็นที่วงการแพทย์เริ่มหันมาให้ความสนใจอย่างจริงจัง
::
อ้างอิงจาก - PubMed (Gene expression in the twilight of death), The Scientist (Gene Activity in the Cellular Afterlife)