Custom Search

Jan 16, 2025

16 มกราคม วันครูแห่งชาติ

f     โบราณนานมา

โบราณนานมา   โบราณนานมา  

วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2568

“...ครู คือ ปัจจัยสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ครู คือ มนุษย์ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กนักเรียนที่จะพัฒนาคุณลักษณะของตนเองและสร้างค่านิยมต่าง ๆ ให้เกิดขึ้น
.
ไม่มีเทคโนโลยีใด ๆ สามารถมาแทนที่ครูได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าว นั่นคือว่าทำไมครูที่ดีจึงสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตลูกศิษย์ได้ ด้วยการพัฒนาพวกเขาให้เป็นพลเมืองที่ดีและมีความสามารถ ทั้งในระดับชาติและระดับเป็นพลเมืองของโลกด้วย...”
.
พระราชดำรัส สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ ๓ ปี ๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๒

Jan 14, 2025

#ตายดี #ผู้ป่วยระยะสุดท้าย #TheActive #ThaiPBS







f      The Active

 


ถ้าสักวัน...วาระสุดท้ายของชีวิตมาถึง สิ่งที่หลายคนปรารถนา คงไม่มีอะไรที่ต้องการมากไปกว่า การได้อยู่รายล้อมไปด้วยคนในครอบครัวอันเป็นที่รัก แล้วใช้ชีวิตทุกวินาทีร่วมกันให้มากที่สุด


คุณค่าที่ผู้ป่วยระยะสุดท้าย จำเป็นต้องได้รับจึงหนีไม่พ้น การดูแล จัดการในรูปแบบประคับประคอง เพื่อไม่ทำให้ผู้ป่วย และครอบครัว ต้องทนทุกข์ ทรมาน กับความเจ็บปวดทั้งทางกาย และทางใจ


The Active ชวนติดตามบทบาทของ ทีมแพทย์ประคับประคอง ศูนย์การุณรักษ์ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น กับภารกิจเยี่ยมบ้านผู้ป่วยที่ตัดสินใจ เลือกช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตสู่การตายดี อย่างเป็นสุข และสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

.
📌 ชมผ่านเว็บไซต์ : https://theactive.net/video/publichealth-20241111/
.
** เรื่องราวที่นำเสนอนี้
ได้รับการอนุญาตจากบุคลากรทางการแพทย์ และครอบครัวผู้ป่วยแล้ว **

"พระราชพิธีสมมงคล" ในหลวงรัชกาลที่ 10 พระชนมายุ 26,469 วัน เท่ารัชกาลที่ 1




14 ม.ค. 68

รัฐบาลจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคล เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุได้ 26,469 วัน เป็น สมมงคล พระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

วันนี้ (14 ม.ค.2568) ประชาชนทุกภาคส่วนร่วมจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคล เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุได้ 26,469 วัน เป็น สมมงคล (สะ - มะ – มง - คน) พระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) สมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราชแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์

โดยรัฐบาลได้จัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่ากับพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ในวันที่ 14 ม.ค.2568 ซึ่งประกอบด้วย

• เวลา 07.30 น. พิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ถวายพระราชกุศล สถานที่ ส่วนกลาง ณ ท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร ส่วนภูมิภาค ณ ศาลากลางจังหวัด หรือสถานที่ที่เหมาะสม
• เวลา 09.00 น. พิธีทางศาสนามหามงคล ถวายพระราชกุศลเฉลิมพระเกียรติฯ สถานที่ ส่วนกลาง ณ เต็นท์พิธีการ ณ ท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร ส่วนภูมิภาค ณ ศาลากลางจังหวัด หรือสถานที่ที่เหมาะสม
• เวลา 18.00 น. ชมการแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ ตอน รามอยุธเยศเศวตฉัตร สถานที่ ณ ลานพระปฐมบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

7 กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคล

​โดยรัฐบาลกำหนดจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ 7 กิจกรรม

(1) การจัดพิธีสืบพระชะตาหลวง ณ สวนสราญรมย์ และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม โดย สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงวัฒนธรรม และกรุงเทพมหานคร วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม คณะสงฆ์หนเหนือ ร่วมกับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงวัฒนธรรม และกรุงเทพมหานคร จัดพิธีสืบพระชะตาหลวง ระหว่างวันที่ 13 - 20 ม.ค.2568 ณ สวนสราญรมย์ และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ซึ่งเป็นประเพณีมงคลของชาวล้านนา

ประกอบด้วยกิจกรรม ได้แก่ พิธีฮอมบุญถวายเจ้าเหนือหัว พิธีแห่ไม้ค้ำโพธิ์ การสาธิตภูมิปัญญาในการจัดเตรียม เครื่องประกอบพิธีกรรม การแสดงศิลปวัฒนธรรมและการละเล่นต่าง ๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของงานพิธี การจัดสาธิตกาดมั่วหรือตลาดพื้นบ้านล้านนา (พิธีฮอมบุญ* คือพิธีร่วมกันทำบุญเป็นกรณีพิเศษ)

(2) การบูรณะปฏิสังขรณ์วัดสังกัสรัตนคีรี จังหวัดอุทัยธานี โดยกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม กรมศิลปากรจะดำเนินการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดสังกัสรัตนคีรี ซึ่งตั้งอยู่เชิงเขาสะแกกรัง จ.อุทัยธานี ภายในเป็นที่ประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ได้แก่ พระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์ พระพุทธรูปสมัยสุโขทัยปางมารวิชัย ซึ่งบริเวณพระเศียรบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ รอยพระพุทธบาทจำลอง และพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนกแห่งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระองค์ผู้เป็นต้นพระบรมราชจักรีวงศ์

(3) การจัดแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ โดยกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม และกรุงเทพมหานคร กรมศิลปากรจะจัดแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ในวันที่ 14 ม.ค.2568 สถานที่จัดการแสดงคือ ณ ลานพระปฐมบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

(4) การจัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก และเหรียญที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โดยกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง

(5) การจัดพิธีทางศาสนาและกิจกรรมถวายพระราชกุศล ณ ศาสนสถาน อันเป็นพระบรมราชานุสรณ์ หรือเกี่ยวเนื่องกับพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โดย กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม และกรุงเทพมหานคร กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดจัดพิธีทางศาสนาและกิจกรรมถวายพระราชกุศล เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ณ ศาสนสถานอันเป็นพระบรมราชานุสรณ์ หรือเกี่ยวเนื่องกับพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

ได้แก่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดสระเกศ วัดราชบูรณะ วัดระฆังโฆสิตาราม วัดคูหาสวรรค์ วัดราชสิทธาราม วัดกาญจนสิงหาสน์ วัดราชาธิวาส วัดโมลีโลกยาราม วัดยานนาวา วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ วัดอรุณราชวราราม วัดสุทัศนเทพวราราม วัดชนะสงคราม และวัดสุวรรณดาราราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ เสาชิงช้า ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร

(6) การจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนาถวายพระราชกุศล โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พิจารณาให้วัดทุกวัดในประเทศไทยจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และเจริญจิตตภาวนาถวายพระราชกุศล สำหรับวัดไทยในต่างประเทศให้พิจารณาการจัดพิธีตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม

(7) การจัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 

ความสำคัญของพระราชพิธีสมมงคล

ในวันที่ 14 ม.ค.2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุ 26,469 วัน เป็นวันสมมงคลเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราช แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์นับเป็นมหามงคลสมัยพิเศษยิ่ง การบําเพ็ญพระราชกุศลถวายแด่สมเด็จพระบรมราชบูรพการี เป็นราชประเพณีที่ถือปฏิบัติสืบกันมาช้านาน พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์จะทรงอนุสรณ์คํานึงถึงพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระบรมราชบูรพการี ในวาระต่าง ๆ เช่น ในวันที่ตรงกับการครองราชย์ มีทั้งโอกาสที่เวียนมาเป็นครั้งแรกมักเรียกว่า "สมมงคล" หมายถึง เสมอกัน หรือ "สมภาคา" บ้าง ถ้าเวียนมาเป็นครั้งที่สองก็เรียกว่า "ทวิภาคา" บ้าง หรือ "ทวีธาภิเษก" บ้าง จะปรากฏแนวปฏิบัติเกี่ยวกับพระราชพิธีลักษณะนี้ ตั้งแต่รัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 พระราชกุศลที่บําเพ็ญถวายแด่สมเด็จพระบรมราชบูรพการีของพระมหากษัตริย์ในพระบรมราชจักรีวงศ์

นอกจากโอกาสวันดํารงสิริราชสมบัติเวียนมาพ้องกับวันสําคัญดังที่กล่าวมาแล้ว ยังมีพระราชประเพณีที่ทรงถือปฏิบัติในอีกหลายวาระ และวาระหนึ่งที่สําคัญ คือ วันที่พระชนมพรรษาเวียนไปเสมอเท่ากัน และ วันที่พระชนมพรรษามากกว่าพระมหากษัตริย์พระองค์ใดพระองค์หนึ่งในรัชกาลที่ล่วงไปแล้วด้วย ถือเป็นภาพลักษณ์ แสดงวัฒนธรรมที่ดีงามของพระมหากษัตริย์ของชาติไทยในการที่ทรงสร้างแบบอย่างความกตัญญูกตเวทิตา แสดงความเคารพรําลึกถึงบรรพชนปู่ย่าตายายที่ประกอบคุณความดีไว้แก่บ้านเมือง ให้ราษฎรยึดถือเป็นแบบแผน

พระราชประวัติ พระปรีชาสามารถ พระราชกรณียกิจ รัชกาลที่ 1 

พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช มีพระนามเดิมว่า ด้วง หรือ ทองด้วง ประสูติในสมัยกรุงศรีอยุธยา เมื่อวันพุธที่ 20 มีนาคม พุทธศักราช 2279 ตรงกับแรม 5 ค่ำ เดือน 4 ปีมะโรง จุลศักราช 1098 ในรัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ (พุทธศักราช 2275 - 2301) ทรงเป็นบุตรพระอักษรสุนทร (ทองดี) ข้าราชการกรมอาลักษณ์ ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากเจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) เสนาบดีกรมพระคลัง ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช กับท่านหยกธิดาเศรษฐีจีน ในปีพุทธศักราช 2311

ภายหลังจากกรุงศรีอยุธยาเสียกรุงแก่พม่าและสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้ทรงสถาปนากรุงธนบุรีขึ้นแล้ว พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้เสด็จเข้ามารับราชการในกรุงธนบุรี ทรงได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นพระราชวรินทร์ในกรมพระตํารวจหลวง ได้โดยเสด็จพระราชดําเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรียกทัพไปปราบเจ้าพิมายเป็นครั้งแรก ต่อจากนั้นทรงได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยให้เป็นแม่ทัพไปปราบหัวเมืองต่าง ๆ ของเขมรและลาวได้สําเร็จอีกหลายครั้ง และในปีพุทธศักราช 2314 ทรงได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นเจ้าพระยาจักรี ที่สมุหนายก และพุทธศักราช 2319 ทรงได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก พิลึกมหึมา ทุกนัคราระอาเดช นเรศราชสุริยวงศ์ องค์อัครบาทมุลกากร บวรรัตนปรินายกรับพระราชทานเครื่องยศอย่างเจ้าต่างกรม

ครั้นพุทธศักราช 2324 ได้เกิดเหตุจลาจลขึ้นในกรุงธนบุรี เนื่องจากสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีมีพระราชอัธยาศัยผิดปกติไปจากเดิม ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ราษฎรและพระภิกษุทั้งหลาย พระยาสรรค์จึงก่อกบฏขึ้นแล้วควบคุมสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีไปกักขังไว้ ได้เกิดการสู้รบกันระหว่างฝ่ายบ้านเมืองกับฝ่ายกบฏ เหตุการณ์ดังกล่าวทําให้สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ซึ่งยกทัพไปปราบจลาจลที่เมืองเขมรต้องยกทัพกลับกรุงธนบุรีทันที เมื่อสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงถูกสําเร็จโทษแล้วมุขอํามาตย์ราชมนตรีและราษฎรทั้งหลายก็พร้อมกันกราบบังคมทูลเชิญสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ให้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์สืบไป เมื่อวันที่ 6 เม.ย.2325 ในขณะที่มีพระชนมายุได้ 47 พรรษา ต่อมาได้ทรงประกอบการพระราชพิธีปราบดาภิเษก เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.2325 และทรงสถาปนาพระราชวงศ์จักรีตามโบราณราชประเพณี

เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติแล้ว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ย้ายพระนครมาทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา เยื้องกับกรุงธนบุรีพระนครแห่งเดิม ด้วยมีพระราชดําริว่าฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยามีลักษณะภูมิประเทศเป็นชัยภูมิดีกว่าฝั่งตะวันตก ทั้งการป้องกันข้าศึกและการขยายพระนครในอนาคตซึ่งจะสามารถทําได้โดยสะดวก ในการนี้ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระยาธรรมาธิกรณ์ (บุญรอด) กับพระยาวิจิตรนาวี เป็นแม่กองคุมช่างและไพร่ไปวัดที่เตรียมสร้างพระนครใหม่ทางฝั่งตะวันออก ทรงประกอบพิธียกเสาหลักเมือง เมื่อวันอาทิตย์ เดือน 6 ขึ้น 10 ค่ำ ปีขาล จุลศักราช 1144 เวลา 06.54 นาฬิกา ตรงกับวันที่ 21 เม.ย.2325

และ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ก่อสร้างพระบรมมหาราชวังขึ้น และสร้างวัดพระศรีรัตนศาสดารามขึ้นในพระบรมมหาราชวัง เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร การสร้างพระนครใหม่นี้แล้วเสร็จเมื่อพุทธศักราช 2328 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตั้งการพระราชพิธีสมโภชเฉลิมฉลองอย่างมโหฬาร พร้อมกับการสมโภชวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เป็นเวลา 3 วัน พระราชทานนามพระนครใหม่ให้ต้องด้วยนามพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรอันเป็นมงคลยิ่งต่อบ้านเมืองว่า "กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทราอยุธยา มหาดิลกภพ นพรัตน์ราชธานีบุรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยะ วิษณุกรรมประสิท" เรียกโดยย่อว่า "กรุงรัตนโกสินทร์"

พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ในการทะนุบํารุงและรักษาราชอาณาจักรให้เจริญรุ่งเรืองและดํารงอยู่อย่างมั่นคง ทรงฟื้นฟูขนบธรรมเนียมและราชประเพณีต่าง ๆ ที่มีมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา เช่น พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระราชพิธีโสกันต์ พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ประเพณีเทศน์มหาชาติ ประเพณีเสด็จพระราชดําเนินไปพระราชทานผ้าพระกฐิน เป็นต้น

พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 7 กันยายน พุทธศักราช 2352 พระราชกรณียกิจด้านต่าง ๆ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้ทรงปฏิบัตินั้น กล่าวได้ว่ามีความสําคัญอย่างยิ่งด้วยเป็นรากฐานและแบบอย่างของการพัฒนาความเป็นชาติไทยสืบต่อมาจวบจนปัจจุบัน

รัฐบาลเตรียมจัดงานพระราชพิธีสมมงคลยิ่งใหญ่ เฉลิมพระเกียรติ ร.10

     สถานีตำรวจภูธรคลองลึก



กรมประชาสัมพันธ์
8/01/2568

ความสำคัญของพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

ในวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุ 26,469 วัน
เป็นวันสมมงคลเท่า
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
สมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราชแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์
นับเป็นมหามงคลสมัยพิเศษยิ่ง 
การบําเพ็ญพระราชกุศลถวายแด่สมเด็จพระบรมราชบูรพการี
เป็นราชประเพณีที่ถือปฏิบัติสืบกันมาช้านาน
พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์จะทรงอนุสรณ์คํานึงถึง
พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระบรมราชบูรพการี
ในวาระต่าง ๆ เช่น ในวันที่ตรงกับการครองราชย์
มีทั้งโอกาสที่เวียนมาเป็นครั้งแรกมักเรียกว่า “สมมงคล”
หมายถึง เสมอกัน หรือ “สมภาคา” บ้าง
ถ้าเวียนมาเป็นครั้งที่สองก็เรียกว่า “ทวิภาคา” บ้าง
หรือ “ทวีธาภิเษก” บ้าง
จะปรากฏแนวปฏิบัติเกี่ยวกับพระราชพิธีลักษณะนี้
ตั้งแต่รัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5
พระราชกุศลที่บําเพ็ญถวายแด่สมเด็จพระบรมราชบูรพการีของพระมหากษัตริย์ในพระบรมราชจักรีวงศ์
นอกจากโอกาสวันดํารงสิริราชสมบัติเวียนมาพ้องกับวันสําคัญดังที่กล่าวมาแล้ว ยังมีพระราชประเพณีที่ทรงถือปฏิบัติ
ในอีกหลายวาระ และวาระหนึ่งที่สําคัญ คือ
วันที่พระชนมพรรษาเวียนไปเสมอเท่ากัน และ วันที่พระชนมพรรษามากกว่าพระมหากษัตริย์พระองค์ใดพระองค์หนึ่งในรัชกาลที่ล่วงไปแล้วด้วยถือเป็นภาพลักษณ์ แสดงวัฒนธรรมที่ดีงามของพระมหากษัตริย์ของชาติไทยในการที่ทรงสร้างแบบอย่างความกตัญญูกตเวทิตา แสดงความเคารพรําลึกถึงบรรพชนปู่ย่าตายายที่ประกอบคุณความดีไว้แก่บ้านเมือง   ให้ราษฎรยึดถือเป็นแบบแผนพระราชประวัติ พระปรีชาสามารถ พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช มีพระนามเดิมว่า ด้วง หรือ ทองด้วง ประสูติในสมัยกรุงศรีอยุธยา เมื่อวันพุธที่ 20 มีนาคม พุทธศักราช 2279 ตรงกับแรม 5 ค่ำ เดือน 4 ปีมะโรง 
จุลศักราช ๑๐๙๘ ในรัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ (พุทธศักราช 2275 - 2301) ทรงเป็นบุตรพระอักษรสุนทร (ทองดี) ข้าราชการกรมอาลักษณ์ ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากเจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) เสนาบดีกรมพระคลัง ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช กับท่านหยกธิดาเศรษฐีจีน ในปีพุทธศักราช 2311 ภายหลังจากกรุงศรีอยุธยาเสียกรุงแก่พม่าและสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้ทรงสถาปนากรุงธนบุรีขึ้นแล้ว พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้เสด็จเข้ามารับราชการในกรุงธนบุรี ทรงได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นพระราชวรินทร์ในกรมพระตํารวจหลวง ได้โดยเสด็จ     พระราชดําเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรียกทัพไปปราบเจ้าพิมายเป็นครั้งแรก ต่อจากนั้นทรงได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยให้เป็นแม่ทัพไปปราบหัวเมืองต่าง ๆ ของเขมรและลาว ได้สําเร็จอีกหลายครั้ง และในปีพุทธศักราช 2314 ทรงได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นเจ้าพระยาจักรี ที่สมุหนายก และพุทธศักราช 2319 ทรงได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก พิลึกมหึมา ทุกนัคราระอาเดช นเรศราชสุริยวงศ์ องค์อัครบาทมุลกากร บวรรัตนปรินายกรับพระราชทานเครื่องยศอย่างเจ้าต่างกรม ครั้นพุทธศักราช 2324 ได้เกิดเหตุจลาจลขึ้นในกรุงธนบุรี เนื่องจากสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี มีพระราชอัธยาศัยผิดปกติไปจากเดิม ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ราษฎรและพระภิกษุทั้งหลาย พระยาสรรค์จึงก่อกบฏขึ้นแล้วควบคุมสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีไปกักขังไว้ ได้เกิดการสู้รบกันระหว่างฝ่ายบ้านเมืองกับฝ่ายกบฏ เหตุการณ์ดังกล่าวทําให้สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ซึ่งยกทัพไปปราบจลาจลที่เมืองเขมรต้องยกทัพกลับกรุงธนบุรีทันที เมื่อสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงถูกสําเร็จโทษแล้วมุขอํามาตย์ราชมนตรีและราษฎรทั้งหลาย   ก็พร้อมกันกราบบังคมทูลเชิญสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ให้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์สืบไป เมื่อวันที่ 6 เมษายน พุทธศักราช 2325 ในขณะที่มีพระชนมายุได้ 47 พรรษา ต่อมาได้ทรงประกอบการพระราชพิธีปราบดาภิเษก เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พุทธศักราช 2325 และทรงสถาปนาพระราชวงศ์จักรี     ตามโบราณราชประเพณี เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติแล้ว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ย้ายพระนครมาทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา เยื้องกับกรุงธนบุรีพระนครแห่งเดิม ด้วยมีพระราชดําริว่าฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยามีลักษณะภูมิประเทศเป็นชัยภูมิดีกว่าฝั่งตะวันตก ทั้งการป้องกันข้าศึกและการขยายพระนครในอนาคตซึ่งจะสามารถทําได้โดยสะดวกในการนี้ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระยาธรรมาธิกรณ์ (บุญรอด) กับพระยาวิจิตรนาวี เป็นแม่กองคุมช่างและไพร่ไปวัดที่เตรียมสร้างพระนครใหม่ทางฝั่งตะวันออก ทรงประกอบพิธียกเสาหลักเมือง เมื่อวันอาทิตย์ เดือน 6 ขึ้น 10 ค่ำ ปีขาล จุลศักราช 1144 เวลา 06.54 นาฬิกา ตรงกับวันที่ 21 เมษายน พุทธศักราช 2325 และ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ก่อสร้างพระบรมมหาราชวังขึ้น และสร้างวัดพระศรีรัตนศาสดารามขึ้นในพระบรมมหาราชวัง เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร การสร้างพระนครใหม่นี้แล้วเสร็จเมื่อพุทธศักราช 2328 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ตั้งการพระราชพิธีสมโภชเฉลิมฉลองอย่างมโหฬาร พร้อมกับการสมโภชวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เป็นเวลา 3 วัน พระราชทานนามพระนครใหม่ให้ต้องด้วยนามพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรอันเป็นมงคลยิ่งต่อบ้านเมืองว่า “กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทราอยุธยา มหาดิลกภพ นพรัตน์ราชธานีบุรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยะ วิษณุกรรมประสิทธิ์” เรียกโดยย่อว่า “กรุงรัตนโกสินทร์” พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ในการทะนุบํารุงและรักษาราชอาณาจักรให้เจริญรุ่งเรืองและดํารงอยู่อย่างมั่นคง ทรงฟื้นฟูขนบธรรมเนียมและราชประเพณี    ต่าง ๆ ที่มีมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา เช่น พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระราชพิธีโสกันต์ พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ประเพณีเทศน์มหาชาติ ประเพณีเสด็จพระราชดําเนินไปพระราชทานผ้าพระกฐิน เป็นต้น พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 7 กันยายน พุทธศักราช 2352 พระราชกรณียกิจด้านต่าง ๆ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้ทรงปฏิบัตินั้น กล่าวได้ว่ามีความสําคัญอย่างยิ่งด้วยเป็นรากฐานและแบบอย่างของการพัฒนาความเป็นชาติไทยสืบต่อมา   จวบจนปัจจุบัน

14 ม.ค. 68 รัฐบาลเชิญชวนประชาชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีสำคัญ “สมมงคล”
           นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เชิญชวนคนไทยร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน“พระราชพิธีสมมงคล” ซึ่งรัฐบาลได้จัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่ากับพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ในวันที่ 14 มกราคม 2568 ซึ่งประกอบด้วย 
•    เวลา 07.30 น. พิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ถวายพระราชกุศล
สถานที่: ส่วนกลาง ณ ท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร
ส่วนภูมิภาค ณ ศาลากลางจังหวัด หรือสถานที่ที่เหมาะสม
•    เวลา 09.00 น. พิธีทางศาสนามหามงคล ถวายพระราชกุศลเฉลิมพระเกียรติฯ
สถานที่: ส่วนกลาง ณ เต็นท์พิธีการ ณ ท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร
ส่วนภูมิภาค ณ ศาลากลางจังหวัด หรือสถานที่ที่เหมาะสม
•    เวลา 18.00 น. ชมการแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ ตอน รามอยุธเยศเศวตฉัตร
สถานที่: ณ ลานพระปฐมบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

7 กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลฯ
    รัฐบาลกำหนดจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ในนามรัฐบาล จำนวน 7 กิจกรรม ได้แก่
(1) การจัดพิธีสืบพระชะตาหลวง ณ สวนสราญรมย์ และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม โดย สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงวัฒนธรรม และกรุงเทพมหานคร วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม คณะสงฆ์หนเหนือ ร่วมกับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงวัฒนธรรม และกรุงเทพมหานคร จัดพิธีสืบพระชะตาหลวง ระหว่างวันที่ 13 - 20 มกราคม พ.ศ. 2568 ณ สวนสราญรมย์ และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ซึ่งเป็นประเพณีมงคลของชาวล้านนา ประกอบด้วยกิจกรรม ได้แก่ พิธีฮอมบุญถวายเจ้าเหนือหัว พิธีแห่ไม้ค้ำโพธิ์ การสาธิตภูมิปัญญาในการจัดเตรียมเครื่องประกอบพิธีกรรม การแสดงศิลปวัฒนธรรมและการละเล่นต่าง ๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของงานพิธีการจัดสาธิตกาดมั่วหรือตลาดพื้นบ้านล้านนา (พิธีฮอมบุญ* คือพิธีร่วมกันทำบุญเป็นกรณีพิเศษ)
(2) การบูรณะปฏิสังขรณ์วัดสังกัสรัตนคีรี จังหวัดอุทัยธานี โดยกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม กรมศิลปากรจะดำเนินการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดสังกัสรัตนคีรี ซึ่งตั้งอยู่เชิงเขาสะแกกรัง จังหวัดอุทัยธานี ภายในเป็นที่ประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ได้แก่ พระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์ พระพุทธรูปสมัยสุโขทัยปางมารวิชัย ซึ่งบริเวณพระเศียรบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ รอยพระพุทธบาทจำลอง และพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระปฐมบรมมหาชนกแห่งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระองค์ผู้เป็นต้นพระบรมราชจักรีวงศ์
(3) การจัดแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ โดยกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม และกรุงเทพมหานคร กรมศิลปากรจะจัดแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ในวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2568 สถานที่จัดการแสดงคือ ณ ลานพระปฐมบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช  
(4) การจัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก และเหรียญที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โดยกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง
(5) การจัดพิธีทางศาสนาและกิจกรรมถวายพระราชกุศล ณ ศาสนสถาน อันเป็นพระบรมราชานุสรณ์หรือเกี่ยวเนื่องกับพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โดย กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม         และกรุงเทพมหานคร
กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดจัดพิธีทางศาสนาและกิจกรรมถวายพระราชกุศล เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุ             เท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ณ ศาสนสถานอันเป็นพระบรมราชานุสรณ์ หรือเกี่ยวเนื่องกับพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้แก่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม     วัดสระเกศ วัดราชบูรณะ วัดระฆังโฆสิตาราม วัดคูหาสวรรค์ วัดราชสิทธาราม วัดกาญจนสิงหาสน์ วัดราชาธิวาส วัดโมลีโลกยาราม วัดยานนาวา วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ วัดอรุณราชวราราม วัดสุทัศนเทพวราราม   วัดชนะสงคราม และวัดสุวรรณดาราราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ เสาชิงช้า ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร
(6) การจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนาถวายพระราชกุศล โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พิจารณาให้วัดทุกวัดในประเทศไทยจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และเจริญจิตตภาวนาถวายพระราชกุศล สำหรับวัดไทยในต่างประเทศให้พิจารณาการจัดพิธีตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม                                                  
(7) การจัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กรุงเทพมหานคร กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะจัดกิจกรรรมปลูกต้นไม้ ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 
เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โดยเป็นไม้มงคลหายาก ควรค่าแก่การอนุรักษ์ ได้แก่  ตะเคียนทอง พิกุล อินจัน

Jan 12, 2025

วันเด็กแห่งชาติ 2568

ในหลวงร.10 พระราชทานพระบรมราโชวาท เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568




คำขวัญวันเด็ก พ.ศ. 2568 - โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร คือ
“ ทุกโอกาส คือ การเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง”

Jan 10, 2025

3 เรื่องที่น่าเสียใจในชีวิต



 f      Fc นิรุตติ์ ศิริจรรยา



3 เรื่องที่น่าเสียใจในชีวิต
พบครูดี…แล้วไม่เรียน
พบเพื่อนดี….แล้วไม่คบ
และพบโอกาส…แล้วไม่คว้าเอาไว้