Custom Search

Jan 29, 2011

อาลัย"หลวงตามหาบัว"เกจิดังอีสานละสังขาร




http://www.luangta.com/

เมื่อ เวลา 03.53 น.วันที่ 30 ม.ค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า"หลวงตามหาบัว"ญาณสัมปันโน
(พระธรรมวิสุทธิมงคล)

เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี
พระเกจิอาจารย์ชื่อดังอีสานละสังขารอย่างสงบ
สิริอายุรวม 97 ปี 5 เดือน 18 วัน


ทั้งนี้หลวงตามหาบัวเข้ารับการรักษาอาการอาพาธ
ณ โรงพยาบาลศิริราช มาตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ตามคำนิมนต์ของคณะแพทย์โรงพยาบาลศิริราช
รวมทั้งโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น
และโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ที่ได้ให้การรักษามาก่อนหน้านี้
ก่อนจะเดินทางกลับมาพักรักษาตัวที่วัดป่าบ้านตาด เมื่อวันที่ 3 ม.ค.

สำหรับ ประวัติ"หลวงตามหาบัว"กำเนิด
ในครอบครัวชาวนา ณ บ้านตาด อุดรธานี

วันเกิด 12 ส.ค.2456 มีพี่น้องทั้งหมด 16
คน สมัยเด็ก เคารพเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา
โดยได้ร่วมทำบุญตักบาตรกับผู้ใหญ่อยู่เสมอ
วัยหนุ่ม เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของครอบครัว
ขยันขันแข็ง ทำงานอะไรทำจริงๆ จังๆ
เป็นที่ไว้วางใจของพ่อแม่ในการงานทั้งปวง คู่ครอง
เดิมไม่เคยคิดจะบวช เพร
าะอยากมีครอบครัว
แต่มักมีอุปสรรคให้แคล้วคลาดทุกทีไป

เหตุที่บวช เมื่ออายุครบ 20 ปี
พ่อแม่ขอร้องให้บวชตามประเพณีอยู่หลายครั้ง ท่านก็ทำเฉย ๆ ตลอดมา
ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธแต่อย่างใด ในครั้งสุดท้ายนี้
ด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้า หวังพึ่งใบบุญจากการบวชของลูกให้ได้
ถึงกับทำให้พ่อแม่น้ำตาร่วง
ครั้งนี้ท่านรู้สึกสะเทือนใจและเห็นใจพ่อแม่มาก
จึงตัดสินใจ และยอมบวชตามประเพณี
เพื่อตอบแทนพระคุณพ่อแม่
โดยตั้งใจไว้ในตอนต้นนี้ว่า จะบวชเพียงระยะสั้น ๆ เท่านั้น

วันบวช 12 พ.ค.2477
ณ วัดโยธานิมิตร อุดรธานี พระอุปัชฌาย์
ชื่อ ท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์(จูม พันธุโล)
วัดโพธิสมภรณ์





ไทยรัฐ

พระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
เจ้าอาวาสวัดเกสรศีลคุณ หรือ "วัดป่าบ้านตาด"
อ.เมือง จ.อุดรธานี ละสังขารแล้วเมื่อเวลา 03.53 น.
ของวันอาทิตย์ที่ 30 ม.ค.54
หลังจากอาพาธมาได้ระยะหนึ่ง
แม้ทีมแพทย์ต่างระดมช่วยชีวิตอย่างสุดความสามารถแล้ว
แต่ก็ไม่สามารถเยียวยาได้

ชื่อ : พระธรรมวิสุทธิมงคล

ชื่อเล่น : บัว



นามแฝง : หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

นามเดิม : บัว โลหิตดี

เกิด : วันที่ 12 ส.ค.2456

บ้านเกิด : ที่บ้านตาด ตำบลบ้านตาด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี

บิดามารดา : นายทองดี และนางแพง โลหิตดี
พี่น้อง ทั้งหมด 16 คน

อุปสมบท อายุได้ 21 ปี เมื่อวันที่ 12 พ.ค.2477 ณ วัดโยธานิมิตร อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
โดยมีท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์

ตำแหน่ง :
(2456 - ปัจจุบัน) เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด ตำบลบ้านตาด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี

เรื่องราวในชีวิต เมื่ออายุ ได้ 21 ปี
บิดามารดาขอร้องให้ท่านบวชเรียน
เพื่อเป็นการทดแทนบุญคุณตามประเพณี
ในที่สุดท่านก็ได้ตัดสินใจบวช ครั้นบวชแล้วท่านได้ศึกษาพระพุทธประวัติ
และประวัติพระอรหันตสาวก จนเกิดความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง
ท่านตั้งใจศึกษาพระปริยัติธรรมเสียก่อน
เพราะถ้าไม่ศึกษาจะไม่เข้าใจในการปฏิบัติ
ท่านใช้เวลาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมเป็นเวลา 9 ปี
ก็สำเร็จพระปริยัติธรรม 3 ประโยค
พร้อมกับสอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก
จากนั้นจิตใจของท่านก็มุ่งออกไปปฏิบัติด้านเดียว
จึงเดินทางมุ่งหน้าไปหาพระ อาจารย์มั่น ภูริทตฺตเถร
ซึ่งในขณะนั้นจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าโนนวิเวศ
จังหวัดอุดรธานี แต่ไม่ได้พบกับพระอาจารย์มั่น
ท่านจึงไปพำนักอยู่ที่ทุ่งสว่าง
จังหวัดหนองคาย เป็นเวลา 3 เดือนกว่า
พอถึงเดือนพ.ค.2485
ท่านก็ได้ออกเดินทางไปจังหวัดสกลนคร
และได้พบกับพระอาจารย์มั่น ที่บ้านโคก
ตำบลตองโขบ อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร
ขณะกำลังเดินจงกลมเวลาใกล้ค่ำ
ภายหลังจากได้ฟังธรรมจากพระอาจารย์มั่น
ซึ่งท่านได้กล่าวยืนยันว่า มรรค ผล นิพพาน
เป็นสิ่งที่เป็นไปได้เสมอ
และให้ผลแก่ผู้ปฏิบัติได้จริง
นับแต่นั้นมา ท่านก็ได้รับตัวเป็นศิษย์
และอยู่ฝึกกรรมฐานกับพระอาจารย์มั่น อย่างเด็ดเดี่ยว
จิตมุ่งอยู่กับสมาธิภาวนาเท่านั้น
รวมเวลาที่ท่านอยู่กับพระอาจารย์มั่นทั้งหมดเป็นเวลา 8 ปี
จวบจนถึงพระอาจารย์มั่นมรณภาพ ในพี พ.ศ. 2592
ครั้นเสร็จงานพระราชทาน เพลิงศพพระอาจารย์มั่นแล้ว
ท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดป่าบ้านหนองผือ 1 พรรษา
แล้วจำพรรษาอยู่วัดห้วยทราย
อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร อีก 4 พรรษา
แล้วจำพรรษาอยู่ที่จังหวัดจันทบุรี 1 พรรษา
ต่อมาในปี พ.ศ.2498
ท่านได้ทราบข่าวว่าโยมมารดาของท่านป่วย
ท่านได้เดินทางกลับมาตุภูมิที่บ้านตาด เพื่อดูแลโยมมารดา
ชาวบ้านนิมนต์ให้ท่านอยู่เป็นหลังอยู่ที่นั้น
เพื่อจะได้เป็นที่พึ่งทางใจให้ชาวบ้าน
โดยได้บริจาคที่ดินประมาณ 163 ไร่
เพื่อสร้างวัด ท่านได้พิจารณาเห็นว่า
โยมมารดาของท่านแก่ชรามากแล้ว
สมควรที่จะได้อยู่ดูแล
เป็นการตอบแทนบุญคุณของมารดาด้วย
ท่านจึงตกลงใจรับนิมนต์ และ เริ่มสร้างวัดนี้
เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2498
ตั้งชื่อว่า “วัดป่าบ้านตาด” จนถึงปัจจุบัน